“อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” รัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ ถือฤกษ์ดี 08.09 น.สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง เข้าปฏิบัติงานวันแรก ประกาศดูแลราคาพลังงานไม่ให้เป็นภาระประชาชน เดินหน้าพลังงานสีเขียว พร้อมเร่งแต่งตั้งตำแหน่งผู้บริหารสำคัญที่ยังค้างอยู่ ทั้งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ)., บอร์ด คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) 4 ตำแหน่ง และผู้อำนวยการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
วันที่ 25 ก.ย.2568 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คนใหม่ ถือฤกษ์ดีเวลา 08.09 น. สักการะพระพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ Energy Complex ที่ตั้งของกระทรวงพลังงาน เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเริ่มงานในตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันแรก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น จากข้าราชการระดับสูงในกระทรวงที่มาให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียงกันนำโดย นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน และอธิบดีในหน่วยงานที่สังกัด ซีอีโอ ปตท.และผู้บริหารในกลุ่ม ปตท. , รักษาการผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และทีมคณะผู้บริหาร กฟผ. ,เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ,เป็นต้น โดยมีคณะทำงานข้างกายของนายอรรถพล คือ นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน ที่จะมาทำหน้าที่เป็นทีมที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าร่วมในพิธีครั้งนี้ด้วย
นายอรรพล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กล่าวถึงร่างนโยบายรัฐบาลที่จะนำไปแถลงต่อรัฐสภา เพื่อกำหนดทิศทางการบริหารประเทศไทยในระยะเวลาอันจำกัดว่า จะเน้นการแก้ไขปัญหา 4 ด้าน ได้แก่ “เศรษฐกิจ ความมั่นคง ภัยพิบัติ สังคม” โดยในด้านเศรษฐกิจที่ต้องดูแลราคาพลังงานนั้น เห็นว่าในช่วงปลายปีของทุกปีจะเป็นช่วงที่ราคาพลังงานเร่งตัวขึ้น จึงต้องเข้าไปศึกษารายละเอียดว่าจะบริหารจัดการอย่างไรเพื่อไม่ให้ราคาพลังงานเป็นภาระต่อประชาชน ขณะที่แนวทางการลดค่าไฟฟ้านั้น ยังต้องไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ยืนยันว่าจะไม่ทำให้ค่าพลังงานเป็นภาระต่อประชาชน
ส่วนนโยบายเบื้องต้นของรัฐบาลชุดนี้ จะมุ่งเน้นส่งเสริมพลังงานสีเขียว เพื่อสนับสนุนประเทศให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065
สำหรับภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการหลังจากเข้ารับตำแหน่งนั้น นายอรรถพล กล่าวว่า ยังต้องรอหารือร่วมกับ นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งเบื้องต้นรับทราบว่ามีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการมากพอสมควร โดยหลังจากแถลงนโยบายฯ แล้ว จะเข้ามาพิจารณาและจัดลำดับความสำคัญ ทั้งเรื่องตำแหน่งสำคัญที่ยังว่างอยู่ เช่น ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง, ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อีก 4 ตำแหน่ง เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายเป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงการทบทวนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ฉบับใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคาดว่าการหารือร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงานจะเริ่มได้ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายฯ แล้ว
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center -ENC ) รายงานว่า สำหรับตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ.คนที่ 17 นั้น ทาง บอร์ด กฟผ. ได้มีมติเห็นชอบเสนอชื่อ นายนรินทร์ เผ่าวณิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง กฟผ. ให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2568 แล้ว แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คนก่อนหน้าคือนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ยังไม่เสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ จนกระทั่งตัวเองพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี จึงทำให้บอร์ด กฟผ.ต้องแต่งตั้ง นายนรินทร์ ให้ทำหน้าที่ รักษาการผู้ว่าการ กฟผ.ไปพลางก่อน เพื่อรอให้รัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ นำเรื่องเสนอเข้า ครม.เพื่อแต่งตั้ง ตามขั้นตอน
ในขณะที่ตำแหน่ง กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่ต้องตั้งใหม่ 4 ตำแหน่ง จากกรรมการที่มีอยู่ทั้งหมด 7 ตำแหน่ง ที่ควรจะมีการสรรหาและแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 แล้ว แต่กระบวนการตั้งคณะกรรมการสรรหาถูกระงับไว้ ทำให้ยังมีกรรมการ กกพ.ที่ยังอยู่ในวาระเหลือเพียง 3 คน และอีก 1 คน ครบวาระแล้วแต่ยังทำหน้าที่รักษาการ เพื่อรอการแต่งตั้ง กรรมการคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่งในขั้นตอนการดำเนินการนั้น นายอรรถพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะต้องเสนอรายชื่อคณะกรรมการสรรหา กรรมการ กกพ.ชุดใหม่ ให้ ครม.เห็นชอบ และเริ่มต้นกระบวนการสรรหา เพื่อให้ได้ตัวกรรมการ กกพ. โดยการตั้งกรรมการ กกพ.ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่อยู่ในมือของนายอรรถพล และคนในวงการพลังงานจับตามอง เนื่องจากกรรมการ กกพ.ที่ตั้งเข้ามาใหม่ 4 คน จะกลายเป็นเสียงส่วนใหญ่ใน กกพ. ที่มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลราคาค่าไฟฟ้า และกิจการพลังงานที่เกี่ยวกับไฟฟ้าและเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ
สำหรับตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ สกนช. ที่ว่างเว้นมานานกว่า 1 ปี เพราะถูกสั่งล้มกระบวนการสรรหาไปหลายรอบ ล่าสุด มีผู้สมัคร ที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ และแสดงวิสัยทัศน์แล้ว ประกอบด้วย
1. พลโท ดร.กฤตภาส คงคาพิสุทธ์ อดีตรองเจ้ากรมการพลังงานทหาร
2. นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สกนช.
3. นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว อดีตรองปลัดกระทรวงพลังงาน
4. นายเพทาย หมุดธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน
5. นางไพลิน ฟุ้งเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักการเงินและบัญชี และรักษาการ ผอ.สกนช.
โดยอยู่ในขั้นตอนที่คณะอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีนายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เป็นประธาน นำเสนอชื่อบุคคลที่สมควรได้รับตำแหน่ง ผอ.สกนช. ให้นายอรรถพล พิจารณาให้ความเห็นชอบ
ส่วนเรื่องการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ฉบับใหม่ ที่คนในวงการพลังงานรอคอยมานาน เพราะมีความสำคัญต่อทิศทางการลงทุนด้านพลังงานของประเทศนั้น อยู่ในขั้นตอนที่ต้องให้นายอรรถพล เสนอเรื่องให้ นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาแต่งตั้งประธานคณะกรรมการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าจัดทำแผน PDP รวมทั้งทบทวนรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นคณะกรรมการ กันใหม่ หลังจากที่ นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ได้แสดงสปิริตยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นประธาน เพื่อเปิดทางให้นายอรรถพล เสนอชื่อบุคคลที่มีความเหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่แทน
