ร้อนระอุ! ไทยเกิดพีคไฟฟ้ารอบที่ 5 ของปี 2567 หลังพระอาทิตย์ตั้งฉากประเทศไทยวันแรก 4 เม.ย. 2567

- Advertisment-

ไทยเกิดพีคไฟฟ้าของปี 2567 ขึ้นเป็นรอบที่ 5 หลังประชาชนใช้ไฟฟ้ารวมถึง 34,196 เมกะวัตต์ เมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 4 เม.ย. 2567 หวังคลายร้อนช่วงวันแรกที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับประเทศไทย ส่งผลยอดพีคปี 2567 เกือบทำลายสถิติพีคประเทศที่เกิดเมื่อปี 2566 ขณะภาครัฐวอนประชาชนช่วยกันประหยัดไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น   

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2567 ประเทศไทยเกิดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) ของปี 2567 อีกครั้ง เป็นรอบที่ 5 เนื่องจากสภาพอากาศร้อนสะสมต่อเนื่อง และสอดคล้องกับข้อมูลที่ทางสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ได้แจ้งว่า ในปี 2567 ดวงอาทิตย์เริ่มตั้งฉากกับประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในวันที่ 4 เม.ย. 2567 จากทางใต้สุด ณ อ.เบตง จ.ยะลา และสิ้นสุดในวันที่ 22 พ.ค. 2567 ณ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ดังนั้นจึงส่งผลให้เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2567 ประชาชนมีการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นมากเพื่อคลายความร้อน โดยเกิดพีคไฟฟ้าถึง 34,196 เมกะวัตต์ ในช่วงกลางคืนเวลา 21.00 น. ซึ่งนับเป็นพีคไฟฟ้าของปี 2567 รอบที่ 5 แล้ว และจะสังเกตเห็นว่าพีคไฟฟ้าดังกล่าวขยับเข้าใกล้จุดพีคไฟฟ้าของประเทศที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค. ปี 2566 ซึ่งมียอดพีคที่ 34,827 เมกะวัตต์ ฉะนั้นหากเกิดการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากวันที่ 4 เม.ย. 2567 อีกเพียง 631 เมกะวัตต์ จะส่งผลให้ไทยต้องบันทึกสถิติการใช้ไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ขึ้นอีกครั้งทันที

- Advertisment -

อย่างไรก็ตามจะเห็นว่านับตั้งแต่เข้าสู่เดือน เม.ย. 2567 ยอดการใช้ไฟฟ้าปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเกินกว่า 32,000 เมกะวัตต์เกือบทุกวัน ซึ่งหากอากาศยังคงร้อนสะสมต่อเนื่องต่อไป ก็มีโอกาสที่ประเทศไทยจะเกิดการใช้ไฟฟ้าพุ่งสูงทำสถิติใหม่ได้ตามที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คาดการณ์ไว้ว่ายอดใช้ไฟฟ้าปี 2567 อาจทะลุถึง 35,000 เมกะวัตต์ได้

โดยพีคไฟฟ้าปี 2567 ได้เกิดขึ้นต่อเนื่องกันมา 5 รอบแล้ว ดังนี้

ครั้งที่  1 เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 19.24 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 30,989.3 เมกะวัตต์

ครั้งที่  2 เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2567 เวลา 19.47 น. มียอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 32,704 เมกะวัตต์

ครั้งที่  3 เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่  33,340 เมกะวัตต์

ครั้งที่  4 เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567 เวลา 20.51 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,827.1 เมกะวัตต์

ครั้งที่  5 เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,196.5 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ที่ผ่านมาภาครัฐได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันประหยัดการใช้ไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากการเกิดพีคไฟฟ้าจะส่งผลให้ไทยต้องซื้อเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากต่างประเทศมาผลิตไฟฟ้ามากขึ้น และยังส่งผลให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงขึ้นด้วย  แม้ภาครัฐจะช่วยตรึงค่าไฟฟ้าไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกรับภาระค่าไฟฟ้าแทนประชาชนไปก่อน จนปัจจุบันประชาชนเป็นหนี้ กฟผ. อยู่ 99,689 ล้านบาท แต่สุดท้ายภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมดประชาชนก็ต้องมาจ่ายคืนในภายหลังอยู่ดี ดังนั้นภาครัฐจึงออกมารณรงค์ขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันประหยัดไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นในช่วงนี้

สำหรับสถิติยอดใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือน นับตั้งแต่ ม.ค.- เม.ย. 2567 มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนี้

เดือน ม.ค. 2567  มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 11 ม.ค. 2567 เวลา 18.52 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 29,051 เมกะวัตต์

เดือน ก.พ. 2567  มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 19.29 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 30,989 เมกะวัตต์

เดือน มี.ค. 2567  มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่  7  มี.ค. 2567 เวลา 19.47 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 32,704 เมกะวัตต์

เดือน เม.ย. 2567  มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 4 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,195 เมกะวัตต์

ส่วนการใช้ไฟฟ้าล่าสุด ณ วันที่ 5 เม.ย. 2567 ณ เวลา 14.32 น. ยอดการใช้ไฟฟ้าขึ้นมาถึง 32,451 เมกะวัตต์แล้ว แต่ส่วนใหญ่พีคไฟฟ้าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน ดังนั้นมีแนวโน้มว่าอาจเกิดพีคไฟฟ้าระดับประเทศขึ้นได้ในเดือน เม.ย. 2567 นี้ หากสภาพอากาศยังคงร้อนสะสมต่อเนื่องต่อไป

Advertisment

- Advertisment -.