จับตาสงครามอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่รุนแรงขึ้น อาจผลักดันราคาน้ำมัน

- Advertisment-

ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานว่าราคาน้ำมันดิบทุกชนิด เฉลี่ยสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ต.ค. 66 ลดลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร และโยกย้ายเงินลงทุนออกจากสินทรัพย์เสี่ยง หลังเศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มชะลอตัว

ราคา ICE Brent หลุดแนวรับเชิงจิตวิทยาที่ 90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. 66 และเกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจของโลกจะชะลอตัวลง โดยธนาคารกลางหลักของโลกมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจนกดดันต่อราคาน้ำมัน

ธนาคารโลก (World Bank) คาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของจีน ในปี 2566 คงที่อยู่ที่ +5.1% เทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ปรับลดประมาณการณ์ GDP ในปี 2567 อยู่ที่ +4.4% เทียบกับปีก่อนหน้า (ต่ำกว่าประมาณการครั้งก่อนที่ +4.8% เทียบกับปีก่อนหน้า) จากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในจีนและเงินเฟ้อสูงขึ้น

- Advertisment -

วันที่ 4 ต.ค. 66 ที่ประชุม Joint Ministerial Monitoring Committee (JMMC) ของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) มีมติคงนโยบายลดการผลิตน้ำมันดิบรวม 3.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงสิ้นปี 2567 ขณะที่ซาอุดีอาระเบียคงมาตรการอาสาลดการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติม 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และรัสเซียลดการส่งออกน้ำมันดิบ 3 แสนบาร์เรลต่อวัน ถึงเดือน ธ.ค. 66 ทั้งนี้ การประชุมครั้งถัดไปจะมีในวันที่ 26 พ.ย. 66

คาดการณ์ราคา ICE Brent สัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 80-90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จับตาสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่ปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 66 ทำให้ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent เปิดตลาดวันที่ 9 ต.ค. 66 เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดวันศุกร์ที่ 6 ต.ค. 66 จากความกังวลของตลาดด้านปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ (War Risk Premium)

Advertisment

- Advertisment -.