GPSC เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีกำไรสุทธิ 3,159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 866 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รับผลกำไรพอร์ตลงทุนต่างประเทศ ทั้งอินเดีย และไต้หวัน ปรับกลยุทธ์สอดรับสถานการณ์การใช้พลังงานทั้งในและต่างประเทศ มุ่งเจาะพื้นที่ศักยภาพเติบโตด้านพลังงานโลก สร้างผลตอบแทนต่อเนื่อง
นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากอัตราแลกเปลี่ยน (กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น) ทั้งจากการลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า ในโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง Changfang และ Xidao (CFXD) ไต้หวัน และยังรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้ เนื่องจากเงินสกุลดอลลาร์ไต้หวันมีการแข็งค่า รวมทั้งผลประกอบการของโครงการไซยะบุรี พาวเวอร์ (XPLC) ใน ส.ป.ป.ลาว ปรับตัวดีขึ้น ตามปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ได้เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารต้นทุนทางการเงิน ส่งผลให้มีต้นทุนทางการเงินลดลงได้ 88 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการชำระคืนเงินกู้บางส่วน ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลง สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการโครงสร้างทางการเงิน สร้างความแข็งแกร่งให้สถานะทางการเงินของบริษัทฯ เป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและสถาบันการเงิน รวมทั้งบริษัทฯ ได้รับการปรับมุมมอง (Outlook) จากฟิทช์ เรทติ้งส์ เป็น Stable
ขณะที่ผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 3,159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 866 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยหลักจากเงินปันผลรับและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าเพิ่มขึ้น 732 ล้านบาทจากผลประกอบการที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นของ Avaada Energy Private Limited : AEPL (ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในอินเดีย) ตามปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการที่เริ่มเปิดดำเนินการในเชิงพาณิชย์ ขณะที่ผลประกอบการของ CFXD มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่ไตรมาส 1/2568 รวมทั้ง CFXD สามารถรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายลดลงโดยหลักจาก ดอกเบี้ยจากการจ่ายคืนเงินกู้ก่อนกำหนด ค่าซ่อมบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า ค่าเบี้ยประกันภัยโรงไฟฟ้าจากการบริหารจัดการความเสี่ยงตามมาตรการด้านความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ไม่มีเหตุการณ์ที่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับครึ่งปีหลัง GPSC ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์บริหารโรงไฟฟ้าให้มีเสถียรภาพ สร้างความมั่นคงทางด้านไฟฟ้า รวมถึงบริหารโครงการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เดินหน้าโครงการ EBITDA Uplift ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพ และมีเป้าหมายแสวงหาโอกาสการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในพื้นที่การลงทุนที่มีศักยภาพต่อไป