สำนักงาน กกพ.ชู บทบาทกำกับกิจการก๊าซธรรมชาติในประเทศ ให้มีความเป็นสากล สร้างความมั่นคงด้านพลังงานควบคู่ การแข่งขันที่โปร่งใส ในเวที Gastech 2025

55
- Advertisment-

สำนักงาน กกพ. ชูแนวคิด “การขับเคลื่อนอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน” (Powering a sustainable energy future) ในเวที Gastech 2025 ที่ มิลาน อิตาลี  ยืนยันบทบาทการกำกับและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติให้มีความเป็นสากลสร้างความมั่นคงด้านพลังงานควบคู่ไปกับการแข่งขันที่โปร่งใส และประเทศไทยมีความพร้อมรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงาน โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ เช่น ศูนย์ข้อมูลหรือ Data Center ที่ใช้พลังงานสูง และการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

โดย สำนักงาน กกพ. เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานจากประเทศไทย ที่เข้าร่วมงาน Gastech 2025 ซึ่งเป็นการประชุมด้านก๊าซธรรมชาติที่สำคัญระดับโลก จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 12 กันยายน 2568 ณ กรุงมิลาน สาธารณรัฐอิตาลีถือเป็นเวทีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลากหลายแง่มุมด้านพลังงานระหว่างประเทศโดยได้รับความสนใจจากผู้บริหารระดับสูงด้านพลังงานของเอกชน ผู้แทนของหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้านพลังงานจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน รวมทั้งมีนิทรรศการด้านพลังงาน เพื่อเสนอองค์ความรู้ ผลงาน แนวคิด ด้านพลังงานสมัยใหม่จากนานาประเทศที่เข้าร่วมงาน 

ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) กล่าวว่า การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับสำนักงาน กกพ. ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ แนวนโยบายของประเทศต่างๆ ในกิจการพลังงานโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และแนวทางการกำกับดูแลกิจการพลังงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรกำกับดูแลพลังงานจากทั่วโลกตลอดจนเป็นเวทีในการเผยแพร่ความก้าวหน้าของประเทศไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและนวัตกรรมด้านพลังงานที่ยั่งยืน

- Advertisment -

“สำนักงาน กกพ. หวังว่าในการเข้าร่วมงาน Gastech จะเป็นโอกาสที่ดีในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทิศทางและความสำเร็จในการกำกับกิจการพลังงานของไทย ในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าสีเขียว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติให้มีความมั่นคง ทันสมัย และรองรับเทคโนโลยีใหม่ ควบคู่ไปกับการจัดทำโครงการนำร่องที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนสามารถผลิตไฟฟ้าสะอาดขายตรงให้กับผู้ใช้รายใหญ่ผ่านโครงการ Direct PPA Pilot Project หรือสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรงระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้ไฟฟ้าโดยมีการส่งมอบผ่านระบบโครงข่ายไฟฟ้า (Third Party Access: TPA) ซึ่งถือเป็นการสร้างความโปร่งใสและเปิดเสรีในการแข่งขันในตลาดพลังงาน

การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ยังเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกสู่ประชาคมโลกว่าไทยมีความพร้อมในการรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงาน โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ เช่น ศูนย์ข้อมูลหรือ Data Center ที่ใช้พลังงานสูง และการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาวพร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความร่วมมือและสร้างเครือข่ายพันธมิตร (Partnership) ทางธุรกิจด้านพลังงานกับองค์กรชั้นนำทั่วโลกเพื่อพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืนของประเทศซึ่งจะช่วยขยายศักยภาพด้านพลังงานและเศรษฐกิจของไทยในระดับภูมิภาคและโลกอย่างมีนัยสำคัญ” ดร.พูลพัฒน์ กล่าว

Advertisment