สั่ง กฟผ. เตรียมเชื้อเพลิงสำรองกรณีฉุกเฉิน พร้อมติดตามเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมี ที่มาบตาพุด อย่างใกล้ชิด

- Advertisment-

กระทรวงพลังงาน ติดตามสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้ที่ถังจัดเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน ของ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการผลิตอะโรเมติก (กลุ่มเส้นใยประดิษฐ์) พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้เตรียมพร้อมรับมือและให้ กฟผ. เตรียมเชื้อเพลิงสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉิน

วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู โฆษกกระทรวงพลังงาน

วันนี้ (9 พฤษภาคม 2567) นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่ได้รับแจ้งเหตุว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณถังจัดเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน ของ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เมื่อเวลา 10.45 น. บริษัทฯ ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ในทันทีตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน ซึ่งในส่วนของกระทรวงพลังงานได้ประสานกรมธุรกิจพลังงานและพลังงานจังหวัดระยองร่วมเฝ้าระวัง และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้เตรียมพร้อมรับมืออย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามแผนหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารประกอบต่างๆ เช่น การผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ สารตั้งต้นในการผลิตสีย้อม เป็นต้น

- Advertisment -

“หลังได้รับแจ้งเหตุ ปลัดกระทรวงพลังงานได้สั่งการให้ตั้ง War room ขึ้น โดยให้กรมธุรกิจพลังงานและพลังงานจังหวัดระยองประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เตรียมความพร้อมให้การทำงานของ LNG Terminal ในมาบตาพุดสามารถดำเนินการได้ตามปกติ และให้ กฟผ. เตรียมเชื้อเพลิงสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สามารถติดต่อศูนย์สื่อสารได้ที่หมายเลข 038-911-995 โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยชี้แจงและให้ข้อมูล” นายวีรพัฒน์ กล่าว

ด้านนายธรรมศักดิ์​ เศรษฐอุดม​ กรรมการ​ผู้จัดการ​ใหญ่​ บริษัท​ปูนซีเมนต์​ไทย​ จำกัด​ (มหาชน)​มีหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์​แห่งประเทศไ​ทย​ ลงวันที่​ 9​ พฤษภาคม​ 2567​ ชี้แจงเหตุการณ์​เพลิงไหม้ถังจัดเก็บสารประกอบ​ไฮโดรคาร์บอน​C9+ ของบริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด​ หรือ​ MTTซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ​ SCG มีเนื้อหาโดยสรุปว่า​ นับตั้งแต่เกิดเหตุ​ ทาง​ MTT ได้เร่งระดมทีมงานเพื่อควบคุมสถานการณ์​ตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน​ โดยตัดแยกระบบและหยุดกิจกรรมต่างๆภายในโรงงานตามขั้นตอนความปลอดภัย​ จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บ​จำนวน​ 4​ ราย​และเสียชีวิต​ 1​ราย​ ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายและค้นหาสาเหตุ

Advertisment

- Advertisment -.