หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมัน ประจำสัปดาห์วันที่ 1-5 ก.ย. 68 และแนวโน้มในสัปดาห์วันที่ 8-12 ก.ย. 68 โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันดิบของ OPEC+ ที่เพิ่มขึ้น

รัสเซียส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือฝั่งตะวันตก อาทิ Primorsk, Novorossiisk และ Ust-Luga ในเดือน ส.ค. 68 เพิ่มขึ้นจากแผนเดิม 2 แสนบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังโรงกลั่นหลายแห่งต้องหยุดดำเนินงานเนื่องจากถูกโจมตีด้วยโดรนของยูเครน ส่งผลให้มีน้ำมันดิบเหลือส่งออกมากขึ้น ส่วนเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 68 รัสเซียกลับมาส่งออกน้ำมันดิบผ่านท่อส่งน้ำมัน Druzhba (8 แสนบาร์เรลต่อวัน) ไปยังฮังการี (95 หมื่นบาร์เรลต่อวัน) และสโลวาเกีย (1.2 แสนบาร์เรลต่อวัน) หลังต้องหยุดดำเนินงานชั่วคราวเนื่องจากถูกโดรนของยูเครนโจมตีเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 68
อีกด้านหนึ่ง China National Offshore Oil Corporation (CNOOC) ของจีน ผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 6.1% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 2.12 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน (มากกว่าคาดการณ์เดิมที่ 2.08 -2.14 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน)
มีการคาดการณ์ว่าฤดูเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกมีแนวโน้มจะรุนแรงที่สุดในเดือน ก.ย. 68 อาจทำให้อุปทานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากอ่าวอเมริกาลดลง ทั้งนี้ จากข้อมูลสถิติเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 67 พายุเฮอริเคน Francine ทำให้การผลิตน้ำมันดิบในอ่าวอเมริกาลดลงราว 5 แสนบาร์เรลจากกำลังผลิตทั้งหมดในอ่าวอเมริกาซึ่งอยู่ที่ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน