กบน.จับตาราคาน้ำมันโลกใกล้ชิด กองทุนฯ ควัก 6 พันล้านบาทต่อเดือนพยุงดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร

N4431
- Advertisment-

คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เฝ้าติดตามสถานการณ์ผลกระทบราคาน้ำมันโลกจากสงครามในอิสราเอลอย่างใกล้ชิด ยืนยันกองทุนน้ำมันฯ ดูแลราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรได้ถึงสิ้นปี 2566 แน่นอน เหตุราคาน้ำมันโลกยังอยู่ในกรอบแผนรองรับวิกฤติราคาน้ำมันที่ไม่เกิน 120 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ย้ำแม้ต้องควักเงิน 210 ล้านบาทต่อวันพยุงดีเซล ท่ามกลางสถานะการเงินที่ยังติดลบกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีเงินกู้ที่ทำการจองไว้ล่วงหน้า 5 หมื่นล้านบาท สามารถกู้ออกมาดูแลราคาพลังงานในประเทศได้ถึงสิ้นปีแน่นอน

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เฝ้าติดตามสถานการณ์การสู้รบในประเทศอิสราเอลอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลผลกระทบต่อราคาน้ำมันในประเทศ เบื้องต้นคาดว่าอาจมีผลกระทบระยะสั้นต่อราคาน้ำมันโลกเท่านั้น เนื่องจากประเทศอิสราเอลไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่และไม่ได้มีการส่งออก หรือเกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำมันแต่อย่างใด

นอกจากนี้ปัจจุบันราคาน้ำมันโลกยังอยู่ในกรอบที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้จัดทำแบบจำลองสถานการณ์ราคาน้ำมันในรูปแบบต่างๆ และแผนรับมือกรณีราคาน้ำมันโลกไม่เกิน 115-120 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งราคาดีเซลสำเร็จรูป ณ วันที่ 10 ต.ค. 2566 ยังไม่เกินกรอบราคาน้ำมันดังกล่าว โดยยังอยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ดังนั้นกองทุนน้ำมันฯ ยังสามารถดูแลราคาน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรต่อไปได้

- Advertisment -

ทั้งนี้ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ยังช่วยชดเชยราคาดีเซลไว้ 4.48 บาทต่อลิตร เพื่อให้ราคาจำหน่ายปลีกดีเซลอยู่ที่ราคา 29.94 บาทต่อลิตร โดยภาพรวมกองทุนฯ มีรายรับอยู่ที่ 141.22 ล้านบาทต่อวัน แต่มีรายจ่ายรวมถึง 364.66 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งหนึ่งในรายจ่ายนี้คือ การชดเชยราคาน้ำมัน 210 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อเดือน ส่งผลให้ภาพรวมกองทุนฯ อยู่ในสภาวะเงินไหลออก 223.44 ล้านบาทต่อวัน

โดยสถานะกองทุนฯ ล่าสุดที่สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) รายงาน ณ วันที่ 8 ต.ค. 2566 พบว่ากองทุนฯ ยังคงติดลบอยู่ 68,327 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบ 23,322 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 45,005 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามมั่นใจได้ว่ากองทุนฯ ยังสามารถดูแลราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรได้ถึงสิ้นปี 2566 แน่นอน แม้ปัจจุบันได้สิ้นสุดระยะเวลาการให้กรอบวงเงินกู้ 1.5 แสนล้านบาท ไปเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2566 แล้ว แต่เนื่องจาก สกนช. ได้ทำเรื่องกู้เงินอีก 5 หมื่นล้านบาท ตามกรอบวงเงินดังกล่าวไว้กับทางสถาบันการเงินล่วงหน้าแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มเบิกออกมาใช้ จึงทำให้กองทุนฯ ยังมีเงินที่จะกู้ได้อีก 5 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินหากกองทุนฯ จำเป็นต้องใช้เงินดูแลราคาน้ำมันในประเทศก็สามารถกู้เงินออกมาใช้ได้ ทั้งนี้โดยรวมกองทุนฯ ได้กู้เงินไปทั้งสิ้นประมาณ 1.08 แสนล้านบาท ซึ่งยังต่ำกว่ากรอบเงินกู้ที่รัฐบาลให้ไว้ 1.5 แสนล้านบาท

สำหรับทางด้านสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกล่าสุด ณ วันที่ 11 ต.ค. 2566  เวลาประมาณ 15.00 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 88.54 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ราคาเพิ่มขึ้น 2.65 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 86.21 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล  เพิ่มขึ้น 0.14 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล  และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 87.80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.30 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

อย่างไรก็ตามเมื่อมาดูในด้านค่าการตลาดน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 11 ต.ค. 2566 ที่รายงานโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) พบว่า ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 1.23 บาทต่อลิตร ขณะที่ค่าการตลาดน้ำมันกลุ่มเบนซินกลับเพิ่มสูงขึ้นถึง 3.2 – 3.8 บาทต่อลิตร  โดยค่าการตลาดเฉลี่ยตั้งแต่วันที่ 1-10 ต.ค. 2566 อยู่ในระดับ 2.98 บาทต่อลิตร ซึ่งค่าการตลาดที่เหมาะสมควรอยู่ที่ระดับ 1.50-2 บาทต่อลิตร ดังนั้นคาดว่าราคาน้ำมันอาจมีการแกว่งตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในระยะสั้นนี้

Advertisment

- Advertisment -.