สนพ. เปิดรับฟังความเห็นร่างแผน PDP 2024 จับตาเพิ่มบทบาทเอกชน ลดโรงไฟฟ้าหลักของ กฟผ.

- Advertisment-


สนพ. เปิดห้องแกรนด์บอลรูม  โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพ รับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (Power Development Plan: PDP 2024) และร่างแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ. 2567-2580 (Gas Plan 2024) วันที่ 12 มิถุนายน 2567 นี้  ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ไม่มีการอัพโหลดตัวร่างแผนขึ้นเว็บไซต์ให้ประชาชนได้ศึกษาล่วงหน้าก่อน  ชี้แผนเปิดทางเอกชนผลิตไฟฟ้าลดบทบาท กฟผ.

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center -ENC ) รายงานว่า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) มีการจัดสัมมนาการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (Power Development Plan: PDP 2024) และร่างแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ. 2567-2580 (Gas Plan 2024) ในกลุ่มภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ในวันที่ 12 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 – 12.00 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพ โดยจะมีนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน  เป็นประธานเปิดงาน และนำเสนอร่างแผน PDP2024 และร่างแผน Gas Plan 2024 โดย นางสาวสุพิตร  คำกลัด ผู้อำนวยการกองนโยบายไฟฟ้า นายฤกษ์ฤทธิ์  เคนหาราช ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายวัชระ  พจี  หัวหน้ากลุ่มก๊าซธรรมชาติ  จาก สนพ. และมีผู้แทนจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ร่วมแสดงความคิดเห็น 

ในขณะที่วันที่ 13 มิถุนายน 2567 จะเป็นการรับฟังความคิดเห็นในส่วนของกลุ่มภาคเอกชน  ผู้ประกอบการ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  วันที่ 17 มิถุนายน 2567 เป็นการรับฟังความคิดเห็นทางระบบออนไลน์ ในพื้นที่ภาคกลาง  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  และวันที่ 19 มิถุนายน 2567 จะเป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ 

- Advertisment -

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า การเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผน PDP 2024 และ Gas Plan 2024  นั้น ค่อนข้างถูกวิจารณ์จากภาคประชาชน  สภาองค์กรของผู้บริโภค ว่าไม่ได้มีการนำร่างแผนดังกล่าวอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์ของ สนพ. ให้มีการศึกษาทำความเข้าใจก่อนการเปิดรับฟังความคิดเห็น ซึ่งจะช่วยให้มีข้อเสนอที่กว้างขวาง หลากหลาย และโปร่งใส  ทำให้มองได้ว่า ตัวร่างแผนที่เปิดรับฟังความคิดเห็น จะไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไขได้อีก และจะเป็นร่างที่จะนำเสนอให้ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( กพช.) และคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบ 

สำหรับประเด็นที่ถูกตั้งข้อสังเกต ต่อร่างแผน PDP 2024 คือ สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ตลอดทั้งแผนจนถึงปี 2580 จะเหลืออยู่เท่าใด และ กฟผ.จะมีโรงไฟฟ้าหลักที่เพียงพอต่อการรักษาความมั่นคงในระบบไฟฟ้าของประเทศเหลืออยู่เท่าไหร่ และเป็นโรงไฟฟ้าที่ใดบ้าง  ซึ่งทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟผ. ได้ออกมาแถลงคัดค้านถึงการย้ายโรงไฟฟ้าสุราษฏร์ธานี โรงที่ 1และ 2 ออกไปจากแผนPDP 2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ที่เป็นแผนปัจจุบัน 

โดยในคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ได้ให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)และ สำนักงาน กกพ. ดำเนินการกำหนดกรอบหรือเพดานสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของเอกชนในระบบผลิตไฟฟ้าของประเทศ และกำหนดปริมาณไฟฟ้าสำรองอันเกี่ยวกับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของเอกชนอันส่งผลต่ออัตราค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชนให้สอดคล้องและใกล้เคียงกับความเป็นจริงตามความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศในแต่ละช่วงเวลา  จึงต้องดูว่า ในร่างแผน PDP 2024 ได้ดำเนินการตามคำแนะนำของศาลหรือไม่ 

นอกจากนี้ในส่วนของร่างแผน PDP 2024 ยังมีข้อเสนอแนะจากอดีตผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงาน ที่จะให้มีการชะลอการรับซื้อไฟฟ้าใหม่เข้าระบบเป็นการชั่วคราว 4 ปี   รวมทั้งการชะลอรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ในโครงการที่มีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ซึ่งจะช่วยให้ค่าไฟฟ้าในภาพรวมของแผน ถูกลงได้อีก 

Advertisment