บ้านปู เพาเวอร์ ลุยขยายลงทุนโรงไฟฟ้าในเวียดนาม ญี่ปุ่น จีน และสหรัฐฯ หวังกำลังผลิตตามสัดส่วนลงทุนถึง 5,300 เมกะวัตต์ในปี 68

695
- Advertisment-

บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน ) ลุยขยายลงทุนโรงไฟฟ้าในเวียดนาม ญี่ปุ่น จีน และ สหรัฐอเมริกาในปี 2564 ตามกลยุทธ์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 5,300 เมกะวัตต์ ในปี 2568 จากปัจจุบันที่มี 2,810 เมกะวัตต์เทียบเท่า

นาย กิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน ) ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนเม.ย.2563 ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า การขยายการลงทุนที่ประเทศเวียดนาม ในปี 2564 จะมีโรงไฟฟ้าพลังงานลมหวินเจา ระยะที่ 1 เวียดนาม กำลังผลิต 30 เมกะวัตต์ (COD ต้นปี 2564 )

ที่ญี่ปุ่นจะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หรือ โซลาร์ฟาร์ม 2 โครงการ คือ โครงการ เคนเซนนุมะ กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ และโครงการ ชิราคาวะ กำลังการผลิต10 เมกะวัตต์ คาดว่าจะCOD ได้ในปี 2564

- Advertisment -

ส่วนที่สหรัฐอเมริกา ที่ทางบ้านปู ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ไปลงทุนในธุรกิจเชลล์ก๊าซที่รัฐเพนซิลเวเนีย ทางบ้านปู เพาเวอร์ จะไปศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง รวมทั้งที่จีน ก็จะเป็นการลงทุนโรงไฟฟ้าต่อเนื่องจากที่ได้มีการลงทุนไปอยู่ก่อนแล้ว

การขยายการลงทุนของบริษัทเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการลงทุนให้ถึง 5,300 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันพอร์ตฟอลิโอของบ้านปู เพาเวอร์ฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2563 มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุน รวม 2,810 เมกะวัตต์เทียบเท่าโดยดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 2,285 เมกะวัตต์เทียบเท่า

โรงไฟฟ้าพลังงานลมเอลวินหมุยยิน ของบ้านปู เพาเวอร์ ที่เวียดนาม

โดยโครงการที่สำคัญที่มีการลงทุนแล้วอาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานลมเอลวินหมุยยิน กำลังการผลิต 38 เมกะวัตต์ ( COD แล้ว Q3/2563 )

โรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง  ในจีน กำลังการผลิต 396 เมกะวัตต์ สามารถขายไฟฟ้าและไอน้ำได้ในเดือนธันวาคมปี 2563

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ฟาร์ม ที่ญี่ปุ่น 2 แห่ง ยาบูกิ กำลังการผลิต 5.3 เมกะวัตต์ และ โครงการยามางาตะ  กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ (COD ในปี 2563 )

นาย กิรณ กล่าวว่า การขยายการลงทุนของบริษัทไปยัง เวียดนาม ญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท 3 ข้อ คือ 1.เป็นประเทศที่ สามารถ synergy กับทางบ้านปู ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้ 2. เป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว หรือ High Growth และ 3. เป็นประเทศที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้า

สำหรับการขยายการลงทุนในประเทศไทยนั้น บริษัทยังต้องรอดูความชัดเจนของแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า หรือ แผนพีดีพี ที่กระทรวงพลังงานจะมีการปรับปรุงใหม่เสียก่อน

Advertisment