เอกชน แสดงความเห็นร่าง “หลักเกณฑ์การอนุญาตสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนที่มีวัตถุประสงค์ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองและหรือจ้างผู้อื่นผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในกิจการตนเอง (IPS)” ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พบค้านประเด็นกรณีกำหนด ผลิตไฟฟ้าด้วยตัวเอง และ ให้ผู้อื่นผลิตเพื่อใช้ในกิจการของตนเอง โดยห้ามผ่านพื้นที่สาธารณประโยชน์และพื้นที่เอกชน ชี้ควรขอความเห็นจากหน่วยงานที่กำกับดูแลอยู่แล้ว ไม่ควรสั่งห้ามเพราะมีผลต่อหลายโครงการ แถมกีดกันพลังงานทดแทนมากกว่าจะเป็นการสนับสนุน ทั้งนี้ กกพ. ยังเปิดรับฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ถึงวันที่ 10 มิ.ย. 2568 นี้
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center – ENC ) รายงานว่า จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้เปิดรับฟังความเห็นร่าง “หลักเกณฑ์การอนุญาตสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนที่มีวัตถุประสงค์ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองและหรือจ้างผู้อื่นผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในกิจการตนเอง (IPS)” ระหว่างวันที่ 26 พ.ค.-10 มิ.ย. 2568 ทางเว็บไซต์ของสำนักงาน กกพ. ซึ่งได้รับความสนใจแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยเฉพาะภาคเอกชนแสดงความกังวลใจในหลายประเด็น ดังนี้
1.กรณีการผลิตไฟฟ้าด้วยตนเอง ซึ่ง กกพ. กำหนดว่า ต้องอยู่ในพื้นที่ของผู้ใช้ไฟฟ้า (พื้นที่ที่ผู้ใช้ไฟฟ้ามีกรรมสิทธิ์) และไม่ผ่านพื้นที่สาธารณประโยชน์และพื้นที่เอกชนอื่น จึงสามารถดำเนินการได้นั้น มีผู้เสนอความเห็นว่า เรื่องพื้นที่ของผู้ใช้ไฟฟ้า ควรพิจารณากรรมสิทธิ์ที่ดินด้วย เช่น กรณีได้รับสิทธิครอบครอง หรือ สิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินและที่ดินบริษัทในเครือ ส่วนพื้นที่สายส่งของผู้ใช้ไฟฟ้า บางกรณีผู้ใช้ไฟฟ้ามีการเดินสายส่งข้ามทางสาธารณะเดิมอยู่แล้ว จุดเชื่อมโยงของระบบผลิตไฟฟ้าอาจจะต้องข้ามทางสาธารณะอยู่แล้ว ดังนั้นตามประกาศจึงไม่สามารถดำเนินการในบางกรณีได้
2. กรณีให้ผู้อื่นผลิตไฟฟ้าให้เพื่อใช้ในกิจการตนเอง ซึ่ง กกพ. กำหนดว่าต้องอยู่ในพื้นที่ของผู้ใช้ไฟฟ้าและผู้ใช้ไฟฟ้าต้องยินยอมให้ผู้ผลิตไฟฟ้าเข้าใช้ประโยชน์ในการประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าบนพื้นที่ของผู้ใช้ไฟฟ้า รวมถึงต้องไม่ผ่านพื้นที่สาธารณประโยชน์และพื้นที่เอกชนอื่น จึงสามารถดำเนินการได้นั้น มีการเสนอแนะว่า ที่ดินสามารถใช้ของผู้ผลิตไฟฟ้ารวมถึงที่ดินของบริษัทในเครือผู้ผลิตไฟฟ้าได้ เพราะผู้ผลิตไฟฟ้าจะเป็นผู้ยื่นขออนุญาตการผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเอง ดังนั้นจึงเห็นควรว่าสามารถใช้ที่ดินของผู้ผลิตไฟฟ้าได้
อย่างไรก็ตามเรื่องทางสาธารณประโยชน์ ปัจจุบันมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลอยู่แล้ว ดังนั้นควรขอความเห็นชอบจากหน่วยงานที่กำกับดูแลมากกว่าที่จะห้ามดำเนินการ เพราะจะมีผลต่อการดำเนินโครงการให้หลายๆ พื้นที่ ดังนั้นโดยสรุปจากประกาศ กกพ. ข้างต้น จะเป็นการกีดกันพลังงานทดแทนมากกว่าจะเป็นการสนับสนุน จึงไม่เห็นควรประกาศบังคับใช้
3.ส่วนรูปแบบโครงการที่นอกเหนือจาก “การผลิตไฟฟ้าด้วยตนเอง” และ “กรณีให้ผู้อื่นผลิตไฟฟ้าให้เพื่อใช้ในกิจการตนเอง” กรณีที่ผ่านพื้นที่สาธารณประโยชน์หรือพื้นที่เอกชนอื่น หรืออยู่นอกพื้นที่ผู้ใช้ไฟฟ้าบางส่วน/ทั้งหมด หรือมีการผลิตไฟฟ้าให้แก่ 2 นิติบุคคลขึ้นไปนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้นั้น มีผู้แสดงความเห็นว่า ยังพอมีทางออก โดยให้บริษัท A ไปเช่าหรือซื้อพื้นที่ผลิตไฟฟ้าสีฟ้า สำหรับผู้ลงทุนผลิตไฟฟ้าจะเป็น บริษัท A ก็ได้ หรือ บริษัท B ก็ได้
นอกจากนี้ยังมีผู้แสดงความเห็นในประเด็น Wheeling Charge หรือค่าผ่านสายส่ง ที่ยังไม่ประกาศออกมา และประเด็นราคาไฟฟ้าสีเขียว หรือ UGT (Utility Green Tariff) ที่มองว่ายังมีราคาแพง เป็นต้น
สำหรับการเปิดรับฟังความเห็น “หลักเกณฑ์การอนุญาตสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนที่มีวัตถุประสงค์ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองและหรือจ้างผู้อื่นผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในกิจการตนเอง (IPS)” ของ กกพ. ได้กำหนดรูปแบบกิจการผลิตไฟฟ้าที่สามารถดำเนินการได้ โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ 1.โครงการที่อยู่นอกพื้นที่เฉพาะ 2.โครงการที่อยู่ในพื้นที่เฉพาะ ได้แก่ การนิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรมและสวนอุตสาหกรรม และ 3.โครงการที่อยู่ในพื้นที่เฉพาะบางส่วน
โดยโครงการอยู่นอกพื้นที่เฉพาะ แบ่งได้ 3 รูปแบบ คือ 1.1 ผลิตไฟฟ้าด้วยตัวเอง (นิติบุคคลเดียว) โดยต้องอยู่ในพื้นที่ของผู้ใช้ไฟฟ้า (พื้นที่ที่ผู้ใช้ไฟฟ้ามีกรรมสิทธิ์) และไม่ผ่านพื้นที่สาธารณประโยชน์และพื้นที่เอกชนอื่น จึงสามารถดำเนินการได้

1.2 ให้ผู้อื่นผลิตไฟฟ้าให้เพื่อใช้ในกิจการของตัวเอง (สองนิติบุคคล) โดยต้องอยู่ในพื้นที่ของผู้ใช้ไฟฟ้าและผู้ใช้ไฟฟ้าต้องยินยอมให้ผู้ผลิตไฟฟ้าเข้าใช้ประโยชน์ในการประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าบนพื้นที่ของผู้ใช้ไฟฟ้า รวมถึงต้องไม่ผ่านพื้นที่สาธารณประโยชน์และพื้นที่เอกชนอื่น จึงสามารถดำเนินการได้

และ 1.3 รูปแบบโครงการที่นอกเหนือจากข้อ 1 และ 2 ดังกล่าว ซึ่งมีการผ่านพื้นที่สาธารณประโยชน์หรือพื้นที่เอกชนอื่น หรืออยู่นอกพื้นที่ผู้ใช้ไฟฟ้าบางส่วน/ทั้งหมด หรือมีการผลิตไฟฟ้าให้แก่ 2 นิติบุคคลขึ้นไปนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้

2. โครงการที่อยู่ในพื้นที่เฉพาะ (การนิคมอุตสาหกรรม, เขตประกอบการอุตสาหกรรมและสวนอุตสาหกรรม) สามารถดำเนินการได้ ทั้งรูปแบบตามข้อ 1-3 โดยผู้ผลิตไฟฟ้าต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง
และ 3 โครงการที่อยู่ในพื้นที่เฉพาะบางส่วน เช่น โรงไฟฟ้าอยู่นอกพื้นที่นิคมฯ และมีระบบจำหน่ายไฟฟ้าออกนอกนิคมฯ เพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในนิคมฯ เป็นต้น สามารถดำเนินการได้ตามรูปแบบโครงการนอกพื้นที่เฉพาะตามข้อ 1-2
ทั้งนี้การดำเนินโครงการในรูปแบบอื่นๆ นอกเหนือจากหลักเกณฑ์การอนุญาตดังกล่าวข้างต้น เช่น การซื้อมาขายไป หรือการนำไฟฟ้าไปจำหน่ายต่อให้แก่เอกชนอื่น การซื้อขายไฟฟ้าแบบ Peer-to-Peer Energy Trading หรือ กรณีลูกค้าผู้ใช้ไฟฟ้าขายไฟฟ้าคืนให้แก่ผู้ผลิตไฟฟ้า เป็นต้น ยังไม่อนุญาตให้ดำเนินการเป็นการทั่วไป