“สุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ” ประธานคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ที่แต่งตั้งสมัยรัฐบาล “ภูมิธรรม” ยื่นหนังสือลาออก เพื่อเปิดทางรัฐบาลชุดใหม่ตั้งผู้ที่เหมาะสมมาทำหน้าที่จัดทำแผน PDP แทน
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ประธานคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ต่อผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดทางให้ทีมรัฐบาลชุดใหม่ได้พิจารณาแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมมาทำหน้าที่ในการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ฉบับใหม่แทน
สำหรับ “คณะกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ” ถูกจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 2568 โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (POP) โดยมี นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานกรรมการและมีคณะกรรมการ คนอื่นๆ ประกอบด้วย
1.เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
2.เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
3.เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
4.ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
5.ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
6.รองศาสตราจารย์ ขวัญชัย ลีเผ่าพันธ์
7.รองศาสตราจารย์ อนุสรณ์ ธรรมใจ
8.รองศาสตราจารย์ แนบบุญ หุนเจริญ
9.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปิติ เอี่ยมจำรูญลาภ
10.นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน
11.นายพรยศ กลั่นกรอง
12.นายวิภู พิวัฒน์ รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า กฟผ.
13.นายอธิปัตย์ บํารุง
14.นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์
15.นางสาวอารีพร อัศวินพงศ์พันธ์ นักวิชาการจากทีดีอาร์ไอ
16.นายพงษ์ดิฐ พจนา
17.นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)
18.ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนพลังาน
เป็น กรรมการและเลขานุการ
19.ผู้อำนวยการกองนโยบายไฟฟ้า สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
20.นายศุภกร คงสมจิตต์ เป็น กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวมา ยังไม่เคยมีการจัดประชุมกันเลยสักครั้ง จนปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้น ทำให้ประธานคณะกรรมการฯ ขอลาออกเพื่อเปิดทางให้ทีมงานชุดใหม่มาดำเนินการภายใต้การทำงานของรัฐบาลชุดใหม่แทน
สำหรับคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีหน้าที่ในการจัดทำพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าในระยะยาวของประเทศ เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแผนและกำหนดนโยบายด้านไฟฟ้าและความต้องการไฟฟ้าของประเทศ รวมทั้งวิเคราะห์ให้ข้อคิดเห็น และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าของประเทศเพื่อเสนอต่อ กพช. ต่อไป
โดยหน้าที่ในการจัดทำแผนพัฒนากําลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ เพื่อให้การผลิตและการจัดหาไฟฟ้าของประเทศไทยในระยะยาวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและความต้องการไฟฟ้าที่แท้จริงของประเทศ และมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ต่ำลง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชนโดยคำนึงถึงความมั่นคงในระบบไฟฟ้าของประเทศ การขยายการผลิตไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้าในระดับที่เหมาะสม รวมทั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นหน่วยงานหลักในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ