พลังงาน ชี้ข้อดีภาษี 19% ช่วยไทยแข่งขันได้ ก่อให้เกิดการลงทุนไทย-สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

207
- Advertisment-

ปลัดพลังงาน ชี้สหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีไทย 19% ทัดเทียมเพื่อนบ้าน ช่วยไทยแข่งขันได้ และก่อให้เกิดการลงทุนทั้งสองประเทศ โดยไทยยังนำเข้า LNG และน้ำมันจากสหรัฐฯ อยู่ ขณะที่นักลงทุนไทยด้านพลังงานหลายบริษัทเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ เช่นกัน สำหรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าประเทศไทย (PDP) อยู่ในขั้นตอนเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการจัดทำแผน PDP พิจารณาข้อเสนอแนะจากประชาชนนำมาปรับปรุงแผน PDP คาดเสร็จภายในปี 2568 นี้

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีสหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีนำเข้าสินค้าไทยที่ 19% ว่า เป็นอัตราที่เทียบเคียงได้กับประเทศในภูมิภาคอาเซียน ทำให้ไทยยังสามารถแข่งขันทางการค้าได้อยู่ และมาตรการภาษีดังกล่าวก็เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ เนื่องจากไทยมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และน้ำมันจากสหรัฐฯ อยู่แล้ว ซึ่งในอนาคตไทยยังมีความต้องการ LNG มากขึ้นด้วย เนื่องจากถือว่าเป็นพลังงานสะอาด

ขณะเดียวกันบริษัทเอกชนไทยก็มีการลงทุนในประเทศสหรัฐฯ หลายบริษัท เช่น  บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป, บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าการลงทุนไปมาระหว่างไทยกับสหรัฐฯ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ

- Advertisment -

สำหรับความคืบหน้าการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เตรียมจัดตั้งคณะกรรมการจัดทำ PDP ขึ้นมาใหม่ เพื่อนำข้อเสนอแนะต่างๆ จากการรับฟังความคิดเห็นที่ผ่านมาซึ่งมีข้อมูลที่หลากหลายในการนำมาปรับปรุงแผน PDP ฉบับใหม่ให้สมบูรณ์และสอดคล้องกับสถานการณ์การใช้พลังงานในอนาคต

นายประเสริฐกล่าวว่า “หลังจากกระทรวงพลังงานเปิดรับฟังความเห็น  ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP 2024) เมื่อเดือน มิ.ย. 2567 ก็มีข้อเสนอแนะเข้ามาจำนวนมาก เช่น สัดส่วนพลังงานหมุนเวียนที่ 50% เพียงพอหรือไม่ และเข้าระบบช้าไปหรือไม่ จะเพียงพอกับดีมานด์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั้งจากการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ และการใช้รถไฟฟ้า (EV) หรือไม่ รวมถึงการเติบโตของเศรฐกิจในอนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งในเรื่องของ GDP ทางกระทรวงพลังงาน ก็ได้ทำเรื่องสอบถามไปยังสภาพัฒน์ฯ เพื่อขอตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่เรื่องของ SMR (โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก) ก็ได้รับการตอบรับดีกว่าที่คาดไว้ และบางส่วนก็เรียกร้องให้นำเข้าสู่ระบบเร็วขึ้น ดังนั้นก็ต้องนำข้อมูลต่างๆมาพิจารณาประกอบกันในหลายๆ ด้าน ก็คาดว่าแผน PDP ฉบับใหม่จะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และคงต้องเปลี่ยนเป็นร่างแผน PDP 2025”

Advertisment