กองทุนน้ำมันฯ ปรับลดเงินชดเชยราคา LPG ลงเหลือ 2.21 บาทต่อกิโลกรัม หลังราคาตลาดโลกต่ำกว่า 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน

63
- Advertisment-

ราคา LPG โลกลดลง ส่งผลกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปรับลดเงินชดเชยราคา LPG เหลือ 2.21 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมลดเก็บเงินโรงแยกก๊าซฯ ที่ผลิต LPG ส่งเข้ากองทุนฯ เหลือ 6.2250  บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาจำหน่าย LPG ยังคงอยู่ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2568 นี้ สำหรับบัญชี LPG มีเงินไหลเข้าประมาณ 589 ล้านบาทต่อเดือน แต่ภาพรวมบัญชี LPG ยังติดลบรวม -44,624 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า นางไพลิน ฟุ้งเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักการเงินและบัญชี และในฐานะรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้ลงนามเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2568 ประกาศ “การกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุน และอัตราเงินชดเชยคืนกองทุนสำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)” โดยกำหนดเปลี่ยนแปลงเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในบัญชี LPG ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. 2568 เป็นต้นไป

สำหรับประกาศดังกล่าวได้กำหนดให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ผลิตในประเทศเพื่อจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิง ในอัตรา 6.2250 บาทต่อกิโลกรัม โดยปรับลดลงจากเดิมที่กำหนดไว้ 6.5307 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวมถึง LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร และ LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) อ.กงไกรลาศ จ. สุโขทัย

- Advertisment -

 อย่างไรก็ตามให้ บริษัท ยูเอซี โกลบอลฯ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตรา 4.5167 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 4.8224  บาทต่อกิโลกรัม

พร้อมกันนี้ยังได้ปรับลดเงินชดเชยราคา LPG ลงเป็น 2.2161  บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมชดเชยอยู่ 2.5218 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวม LPG จากการแยกก๊าซฯ ที่ซื้อหรือได้จากรัฐ ผู้รับสัมปทาน หรือผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) โดยโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ.สยาม จำกัด โดยราคาขายปลีก LPG ยังคงเท่าเดิมที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ถึง 30 มิ.ย. 2568 หลังจากนั้นต้องรอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาต่อไป

รวมทั้งกำหนดเงินส่งเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ซื้อหรือได้มาจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด ในอัตราเดิม 4.6876 บาทต่อกิโลกรัม

ส่วนกรณี LPG ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปต่างประเทศ ตาม พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 และได้รับเงินชดเชยจากกองทุนฯ แล้ว ให้ส่งเงินชดเชยคืนกองทุนฯ  2.2161 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 2.5218 บาทต่อกิโลกรัม

สำหรับปัจจุบันบัญชี LPG ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยภาพรวมยังติดลบอยู่ -44,624 ล้านบาท โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) กำหนดกรอบวงเงินสำหรับอุดหนุนราคา LPG ได้ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ปัจจุบันกองทุนฯ มีเงินไหลเข้าจาก LPG จำนวน 19.65 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 589 ล้านบาทต่อเดือน) จากเดิมมีรายได้เข้า 21 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 657 ล้านบาทต่อเดือน) ขณะที่ราคา LPG โลกเดือน มิ.ย. 2568 อยู่ที่ระดับประมาณ 585 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ลดลงจากเดือน พ.ค. 2568 ที่เคยอยู่ในระดับ 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน  

สำหรับประกาศดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่กำหนดนโยบายให้ กบน. บริหารกองทุนฯ อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความเสี่ยงกรณีเกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงดังนี้

1.มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้นทุนการจัดหาจากโรงแยกก๊าซฯ ,ต้นทุนโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และต้นทุนโรงแยกก๊าซฯ ของบริษัท ยูเอซี โกลบอลฯ มีราคาสูงกว่านำเข้า 2.มีเหตุการณ์ที่ทำให้ราคา LPG ของตลาดโลกเปลี่ยนแปลงใน 2 สัปดาห์ เฉลี่ยมากกว่า 35 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน 3. มีเหตุการณ์ที่ให้ราคา LPG  ในประเทศเปลี่ยนแปลงใน 2 สัปดาห์ รวมกันมากกว่า 1 บาทต่อกิโลกรัม  และ 4. มีเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาขายปลีก LPG ในประเทศสูงขึ้นในระดับเกินกว่า 363 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ทั้งนี้เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนหรือชะลอการขาดแคลนในประเทศ เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและเศรษฐกิจของประเทศ

Advertisment