Quick Big Win กระทรวงพลังงาน ตอบโจทย์เป้าหมาย Net Zero ของประเทศ เร่งโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ เขื่อน กฟผ. 1,638 เมกะวัตต์ เป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญ 

283
- Advertisment-

การแถลงรายละเอียดนโยบาย “ Quick Big Win ” ของกระทรวงพลังงาน โดยนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าโครงการต่างๆ ที่จะผลักดันภายใต้นโยบายดังกล่าว ในช่วง 4 เดือนก่อนที่รัฐบาลที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี จะยุบสภานั้น เป็นไปเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ หรือ Net Zero ในปี 2050 ที่ประเทศไทยประกาศไว้ต่อประชาคมโลก รวมทั้งยังอยู่ภายใต้กรอบแผนพลังงานแห่งชาติ ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้ให้ความเห็นชอบแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม  2564 

โดยงานสำคัญที่จะเร่งดำเนินการเพื่อให้เห็นเนื้อในของรายละเอียดของโครงการที่จะไปตอบโจทย์ เป้าหมาย Net Zero  คือการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศฉบับใหม่ หรือ แผน PDP (Power Development Plan) เพื่อไปแทนแผน PDP 2018 rev1 ที่ใช้อย่างเป็นทางการอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งในหลักการสำคัญนั้น นายอรรถพล ได้ระบุไว้ในการแถลงข่าวว่า จะยังยึดตามหลักการ 3 ด้าน หรือ Energy Trilemma คือ ต้องมีความมั่นคงทางพลังงาน ต้องเป็นพลังงานที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และต้องเป็นพลังงานที่คาร์บอนต่ำ เพื่อให้ไทยเดินหน้าสู่เป้าหมายการปรับลดคาร์บอนในระดับโลก โดยจะมีการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาดให้มากขึ้น ทำให้คาดการณ์ได้ว่าโครงการภายใต้ Quick Big Win  ของกระทรวงพลังงาน ทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์ลอยน้ำใน 3 เขื่อนหลักของ กฟผ. ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ กำลังผลิตรวม 1,638 เมกะวัตต์ จะถูกบรรจุเอาไว้ในแผน PDP ฉบับใหม่  อย่างแน่นอน 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้ผู้บริหารระดับสูงของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา (ขอบคุณภาพจากเฟซบุคกระทรวงพลังงาน )

สำหรับโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ นั้น กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือ พพ. เป็นผู้จัดทำระเบียบหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกเอกชนและชุมชนที่จะเข้าร่วมโครงการ เพื่อนำเสนอให้ กพช. พิจารณาให้ความเห็นชอบ จากนั้นทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะเป็นผู้ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าตามมติ กพช. โดยกระทรวงพลังงานมีแนวทางเบื้องต้นที่จะให้ชุมชนที่มีศักยภาพในเรื่องพื้นที่และมีความพร้อมเรื่องระบบสายส่งรองรับ ร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อลงทุนติดตั้งโซลาร์ฟาร์มผลิตไฟฟ้า ชุมชนละไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ และผู้ลงทุนจะต้องมีการแบ่งปันผลประโยชน์คืนให้กับชุมชน ซึ่งคาดว่าจะช่วยดึงการลงทุนจากภาคเอกชน ประมาณ 30,000 ล้านบาท และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 1.96 ล้านตันคาร์บอน 

- Advertisment -

ในส่วนของโครงการโซลาร์ลอยน้ำใน 3 เขื่อนหลักของ กฟผ. ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล เขื่อนศรีนครินทร์ และ เขื่อนวชิราลงกรณ กำลังผลิตรวม 1,638 เมกะวัตต์นั้น ถือเป็นโครงการที่ต่อเนื่องจากโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี และเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ที่ดำเนินการไปแล้วและเห็นผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ จึงมีการขยายผลไปยังเขื่อนต่างๆ ของ กฟผ. ที่มีศักยภาพ โดยโครงการของเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก อยู่ในระหว่างเปิดขายเอกสารประกวดราคาเพื่อเริ่มดำเนินการในชุดที่ 1 ขนาดกำลังผลิต 158 เมกะวัตต์ มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในปี 2570 เช่นเดียวกับโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ที่ในชุดที่ 1 จะมีกำลังการผลิต 140 เมกะวัตต์ ซึ่งเปิดขายเอกสารประกวดราคาแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการโซลาร์ลอยน้ำของ กฟผ. นั้น ภายใต้แผน PDP2018 rev. 1 กำหนดไว้ให้ กฟผ. ดำเนินการเป็นกำลังผลิตรวม 2,725 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573  ซึ่งต้องรอติดตามว่าในแผน PDP ฉบับใหม่ จะกำหนดรายละเอียดของแต่ละโครงการเป็นอย่างไร 

ตัวอย่างโครงการโซลาร์ฟาร์มบนทุ่นลอยน้ำในเขื่อนของ กฟผ. ที่ดำเนินการไปแล้ว

โครงการโซลาร์ลอยน้ำของ กฟผ. ถือเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญในการเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ที่รัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังคงให้ความสำคัญ เพราะเป็นโครงการที่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยก่อสร้างโรงไฟฟ้าบนพื้นที่ผิวน้ำในเขื่อนของ กฟผ. และใช้อุปกรณ์หลักร่วมกันกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่มีอยู่เดิม ช่วยลดต้นทุนการผลิต ทำให้ค่าไฟฟ้ามีราคาต้นทุนที่เหมาะสม เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจากต่างประเทศซึ่งมีต้นทุนสูง และมีความผันผวนตามราคาตลาดโลก จึงมีส่วนสร้างความมั่นคงให้ระบบพลังงานไฟฟ้าของประเทศ

Advertisment