ผลงานครึ่งเดือน “อรรถพล” กระตุ้นพลังงานคึกคัก

ด้วยระยะเวลาที่เหลือเพียง 4 เดือนของการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของ “นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเปิดโอกาสให้เลือกตั้งใหม่ ส่งผลให้การบริหารงานด้านพลังงานต้องเร่งมือทำงานอย่างไม่มีวันพัก ต้องเข้ามาสะสางปัญหาหลายด้านที่ค้างคามาจากรัฐบาลชุดเก่า

โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ หรือ PDP ฉบับใหม่, การแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) 4 ตำแหน่ง และการแต่งตั้งตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ที่ค้างคามากว่า 1 ปี รวมถึงตำแหน่งผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการเปิดรับซื้อไฟฟ้าสีเขียว เฟส 2 อีก 3,668 เมกะวัตต์ เป็นต้น

ตลอดเวลา 15 วัน นับตั้งแต่ก้าวแรกที่ “นายอรรถพล” เข้าบริหารงานที่กระทรวงพลังงาน และได้เริ่มดำเนินงานหลายด้าน ซึ่งทีมศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) ได้รวบรวมผลงานตลอดครึ่งเดือนไว้ดังนี้

เมื่อวันที่ 30 ก.ย 2568 แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดย นายอรรถพล ได้ชี้แจงนโยบายพลังงานที่สำคัญภายใต้ชื่อ “Quick Big Win” ซึ่งล้วนเป็นโครงการใหญ่ที่ต้องเริ่มต้นให้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศกว่า 7 แสนล้านบาท และลดปัญหาโลกร้อนไปพร้อมกัน

เช่น โครงการโซลาร์ภาคประชาชน ที่ประกอบด้วย โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ ที่ปัดฝุ่นจากโครงการโซลาร์สหกรณ์ โดยจะให้ชุมชนจับมือกับเอกชนผลิตไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน, โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร 1,200 ระบบ,  มาตรการลดหย่อนภาษีโซลาร์เซลล์ 2 แสนบาท, โครงการโซลาร์ลอยน้ำใน 3 เขื่อนหลักของ กฟผ.

ส่วนในภาคเอกชนก็มี “โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบพลังงานรองรับภาคอุตสาหกรรม” ซึ่งประกอบด้วย สัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะอาดตรง (Direct PPA) 2,000 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับอุตสาหกรรม Data Center, การพัฒนาระบบไฟฟ้ารองรับอุตสาหกรรมเขตภาคตะวันออก เพื่อพัฒนาระบบผลิตและระบบส่งไฟฟ้าในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรม ผ่านกลไกกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน    

และในด้านของสิ่งแวดล้อม รัฐบาลได้ปรับเป้าหมายขยับเวลา “การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)” ให้เร็วขึ้นจากปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) ไปเป็น ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) หรือเร็วขึ้น 15 ปี ซึ่งจะมาจากโครงการโซลาร์ภาคประชาชน, การวางแผน PDP ฉบับใหม่ และการพัฒนาเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS)

โดยจากนโยบาย Quick Big Win นี้ กระทรวงพลังงานคาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 7 แสนล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 1.6 หมื่นตำแหน่ง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ได้กว่า 10 ล้านตันคาร์บอนฯ ต่อปี และช่วยลดรายจ่ายด้านพลังงาน เพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน

หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ แล้ว ก็ได้ฤกษ์บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเข้ากระทรวงพลังงานปฏิบัติหน้าที่ครั้งแรกในวันที่ 25 ก.ย. 2568 โดยให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า จะไม่มีการเจรจา หรือดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้นที่เกี่ยวกับแหล่งปิโตรเลียมในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา จนกว่าจะได้ข้อยุติเรื่องเขตแดน ย้ำความมั่นคงของชาติ อธิปไตยของชาติ ดินแดนของชาติ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเหนือผลประโยชน์อื่นใด  

ต่อมาในวันที่ 3 ต.ค. 2568 ได้ประกาศลดราคาน้ำมันดีเซลและกลุ่มเบนซินทันที 50 สตางค์ต่อลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. 2568 โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วย ส่งผลให้ราคาดีเซลลดลงจาก 31.94 บาทต่อลิตร เหลือ 31.44 บาทต่อลิตร

พร้อมกันนี้ได้เปิดงาน “กินพี่…แล้วหมีหนาว” ซึ่งเป็นแคมเปญส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการจับมือ กฟผ. และ 5 บริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของไทย ได้แก่ PTTOR  PTG เชลล์ คาลเท็กซ์ และซัสโก้ เร่งส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพ ที่ผลิตจากพลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ

ต่อมาในวันที่ 8 ต.ค. 2568 ได้เปิดแถลงนโยบายของกระทรวงพลังงาน โดยสาระสำคัญคือมุ่งชี้แจงนโยบาย  “Quick Big Win” พร้อมให้ความชัดเจนในงานต่างๆ ที่ค้างคามาจากรัฐบาลก่อน โดยยืนยันว่าการจัดทำแผน PDP จะพยายามให้เสร็จภายใน 4 เดือน พร้อมกันนี้จะต้องเร่งตั้ง “คณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน” เพื่อให้การเดินหน้าตั้ง กกพ. 4 ตำแหน่งให้แล้วเสร็จโดยเร็ว  ขณะที่ตำแหน่งผู้ว่า กฟผ. อยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอสู่ที่ประชุม ครม. ซึ่งเบื้องต้นจะเป็นไปตามที่คณะกรรมการสรรหา ผู้ว่า กฟผ. พิจารณา ส่วนโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชนคาดว่าจะประกาศหลักเกณฑ์ได้ภายใน 4 เดือนเช่นกัน   

สำหรับกรณี ร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์  ที่ผลักดันในสมัยที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ ครม. อนุมัติหลักการ ไปเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2568 แต่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตีกลับนั้น นายอรรถพล ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อการผลักดันโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน และ โซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร ภายใต้นโยบายการสร้างรายได้ลดรายจ่ายด้านพลังงาน Quick Big Win ของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงพลังงานคงจะไม่เดินหน้าต่อในการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว แต่จะใช้วิธีการเจรจากับกระทรวงที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงระเบียบขั้นตอนการดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นแทน โดยจะมีการนำเสนอเรื่องให้ ครม. พิจารณาทบทวนในหลักการตามความเห็นของ คณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป  

จากนั้นในวันที่ 10 ต.ค. 2568 นายอรรถพล ได้เดินทางไปมอบนโยบายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ให้การต้อนรับ พร้อมระบุว่าการดำเนินงานตามนโยบาย “Quick Big Win” สนพ. มุ่งเน้นการเร่งขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในระยะสั้น โดยใช้ศักยภาพด้านข้อมูล การวิเคราะห์ และการวางแผนเชิงนโยบาย เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของประเทศด้านพลังงาน ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ทั้งในด้านความมั่นคงทางพลังงานการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างความยั่งยืนให้กับระบบพลังงานของไทย

พร้อมกันนี้ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ. ) โดยมีนางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดี พพ. พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ โดยได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานภายใต้นโยบาย “Quick Big Win” เพื่อเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาด้านพลังงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เห็นผลเร็ว และสร้างประโยชน์โดยตรงแก่ประชาชน ทั้งในด้านการสร้างรายได้ ลดรายจ่ายพลังงาน และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

และล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 11 ต.ค. 2568  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยพลโทอดุลย์  บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงทางพลังงานในพื้นที่ชายแดน และให้กำลังใจกับทหารที่ประจำการอยู่บริเวณแนวชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการในพื้นที่ พร้อมสั่งการด่วนให้ กฟผ. สนับสนุนระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์  รวมแบตเตอรี่ จำนวน 100 ชุด ที่ใช้ในการสื่อสารทางทหารในพื้นที่ชายแดน เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ทำหน้าที่ป้องกันประเทศชาติและประชาชน

จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และร้านสะดวกซื้อบ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากได้รับการซ่อมแซมและกลับมาเปิดให้บริการตามปกติอีกครั้งหลังจากที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการสู้รบระหว่างไทย – กัมพูชา โดยได้พูดคุยและให้กำลังใจเจ้าของสถานีบริการ ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่แหล่งจัดเก็บและจุดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่อ่อนไหว เพื่อเตรียมการและบรรเทาผลกระทบจากความรุนแรงไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ในช่วงบ่ายได้ลงพื้นที่เกษตรกรรมในพื้นที่หนองละหาร ต.ละลม อ.ภูสิงห์ เพื่อสำรวจและเตรียมเดินหน้าโครงการ Quick Big Win โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร 1,200 ระบบ ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้สูบน้ำไปยังพื้นที่ทางการเกษตรที่ส่วนท้องถิ่นและชุมชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ รวมทั้งการร่วมลงทุน และการดูแลรักษา เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และเตรียมเดินหน้าตามแผนส่งเสริมทั่วประเทศ ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จ 50 ระบบ ภายใน 4 เดือน (ต.ค. 2568 – ม.ค. 2569) และจะเร่งดำเนินการอีก 1,150 ระบบ จนครบตามเป้าหมาย 1,200 ระบบทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่าจะทำให้พี่น้องเกษตรกรมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลดลง สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะจะมีเม็ดเงินจากการลงทุนในโครงการกว่า 12,000 ล้านบาท และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 63,000 ตันต่อปี

นายอรรถพล ยืนยันว่า ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 4 เดือน จะต้องเร่งสะสางงานต่างๆ ให้ได้มากที่สุด ในส่วนของโครงการ “Quick Big Win” แม้จะเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจประเทศและสังคมอย่างมาก แต่ต้องใช้เวลานาน ดังนั้นใน 4 เดือนนี้ขอให้เริ่มต้นให้ได้ก่อน หลังจากนั้นกระบวนการก็จะเดินหน้าต่อไปเอง แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก็ตาม

ห้วงเวลา 4 เดือนกับการบริหารงานด้านพลังงาน นับเป็นเวลาที่น้อย ซึ่งแต่ละวันล้วนมีค่า ทำให้รัฐมนตรีพลังงานคนใหม่จำเป็นต้องเร่งทำงานแทบไม่มีวันหยุด ส่งผลให้บรรยากาศการทำงานของกระทรวงพลังงานและข้าราชการกลับมาคึกคักและกระตือรือร้นในการเดินหน้าโครงการต่างๆ กันอีกครั้ง พร้อมกับความท้าทายด้วยเวลาที่จำกัดเพื่อวัดผลงานรอบ 4 เดือน ก่อนยุบสภาฯ