การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ส่งหนังสือถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สอบถามความชัดเจนการใช้ไฟฟ้าของกัมพูชาตามขั้นตอน หากพบไม่มีความต้องการใช้แล้วจะยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกัน ยืนยันขณะนี้กัมพูชาไม่มีการใช้ไฟฟ้าไทยทั้ง 9 จุดเชื่อมต่อ มั่นใจไม่ส่งผลกระทบ PEA สามารถหาลูกค้าในประเทศมาซื้อแทนได้ พร้อมเผยเสาและสายไฟฟ้าอีก 10% ที่เสียหายจากระเบิดของกัมพูชา ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่แก้ไขได้ ต้องรอให้เกิดความปลอดภัยก่อน ทั้งนี้ PEA ห่วงใยประชาชนจึงได้ร่วมกับพนักงานจัดส่งถุงยังชีพ 2,000 ถุง ช่วยผู้อพยพตามศูนย์พักพิงและผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากพายุวิภาในภาคเหนือ
วันนี้ 30 ก.ค. 2568 นายมงคล ตรีกิจจานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) นำคณะผู้บริหาร พนักงาน นักเรียนช่าง กฟภ. และลูกจ้างร่วมบรรจุถุงยังชีพกว่า 2,000 ถุง เพื่อมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ณ สำนักงานใหญ่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
นายมงคล กล่าวว่า ที่ผ่านมา PEA ได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงเข้ามายังไทย ส่งผลให้เกิดปัญหากระแสไฟฟ้าขัดข้อง เสาและสายไฟฟ้าได้รับความเสียหาย ซึ่ง PEA ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าซ่อมบำรุงไปแล้ว 90% ยังเหลืออีกประมาณ 10% ที่ยังไม่สามารถเข้าซ่อมได้ เนื่องจากต้องรอให้ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบสถานการณ์ก่อนจึงจะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ PEA เข้าซ่อมแซมได้ ทั้งนี้เพื่อความปลอยภัยต่อชีวิตของทุกคน
ส่วนกรณีการขายไฟฟ้าให้กัมพูชานั้น ปัจจุบัน PEA ยังมีสัญญาการซื้อขายไฟฟ้ากับกัมพูชาอยู่ 9 จุด แต่ทางกัมพูชาได้ตัดการใช้ไฟฟ้าจากไทยทั้ง 9 จุดไปแล้ว ซึ่งในระบบของ PEA ไม่พบการใช้ไฟฟ้าของกัมพูชาแต่อย่างใด และเมื่อเร็วๆ นี้ ทาง PEA ได้ทำหนังสือถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อสอบถามต่อไปยังสถานทูตกัมพูชาว่ายังจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าไทยอยู่หรือไม่ และหากทาง สมช. สรุปตอบกลับมายัง PEA ว่าไม่มีความจำเป็นแล้ว ทาง PEA จะทำการยกเลิกสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของสัญญาอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ปัจจุบันทางกัมพูชาไม่ได้ติดค้างค่าไฟฟ้ากับ PEA แต่อย่างใด
สำหรับไฟฟ้าที่เคยขายให้กัมพูชาประมาณ 50 เมกะวัตต์ ทาง PEA จะหันไปจำหน่ายในพื้นที่ของประเทศไทยที่มีความต้องการแทน โดยยืนยันว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเลิกใช้ไฟฟ้าในครั้งนี้
นอกจากนี้ PEA และพนักงานในสังกัดได้ร่วมกันบรรจุถุงยังชีพกว่า 2,000 ถุง เพื่อมอบให้กับผู้อพยพคนไทยตามศูนย์พักพิงจากสถานการณ์การสู้รบไทย-กัมพูชาในครั้งนี้ รวมไปถึงผู้ประสบอุทกภัยจากพายุวิภาใน 5 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ น่าน พิษณุโลก เชียงราย สุโขทัย แพร่ พร้อมกันนี้ PEA ยังได้ดำเนินการช่วยเหลือแก้ไขอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ประชาชนจนสามารถจ่ายไฟฟ้าได้แล้ว 9 หมื่นราย ยังเหลืออีกประมาณ 4 หมื่นรายที่ต้องรอให้น้ำลดระดับลงก่อนเพื่อความปลอดภัยจึงจะกลับมาจ่ายไฟฟ้าได้

สำหรับผู้มีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมฯ มอบถุงยังชีพ 2,000 ถุง รวมเป็นเงิน 590,450 บาท ได้แก่
1. มูลนิธิสายใยไฟฟ้า
2. คณะแม่บ้านและครอบครัว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
3. บริษัท พีอีเอ เอนคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
4. สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำกัด
5. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
6. สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนช่าง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
7. ชมรมมุสลิม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
8. ชมรมผู้เกษียณ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
9. ชมรมวิศวกร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
10. ชมรมผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
11. ชมรม PEA – PennState/PST
12. ชมรมกีฬากอล์ฟ สมาคมสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
13. ชมรมกีฬาโบว์ลิ่ง สมาคมสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
14. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคกลาง) จังหวัดนครปฐม
15. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 (ภาคใต้) จังหวัดเพชรบุรี
16. ชมรมพุทธศาสน์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
17. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ทั้งนี้ PEA ขอเชิญชวนร่วมสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากผลกระทบน้ำท่วมและเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านบัญชีเงินฝาก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชื่อบัญชี “กฟภ. ช่วยเหลือผู้ประสบภัย“ เลขที่บัญชี 073-0-13548-9 Company Code : 7311 (โปรดแจ้ง Company Code ต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารก่อนโอนเงิน เพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอน)