มหาอุทกภัยภาคใต้ที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายมากมายทั้งบ้านเรือนประชาชน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ รวมถึงโรงไฟฟ้าจะนะซึ่งถือเป็นโรงไฟฟ้าหลักที่สำคัญแห่งหนึ่งของภาคใต้ ระดับน้ำรอบโรงไฟฟ้าที่สูงกว่า 5.30 เมตร ได้ทะลักเข้าท่วมภายในโรงไฟฟ้าสูงกว่า 2 เมตร ส่งผลให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต้องหยุดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าจะนะตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยพบว่าอุปกรณ์หลักจมน้ำเสียหายบางรายการ ทำให้ กฟผ. ต้องเร่งกู้คืนโรงไฟฟ้าเพื่อให้สามารถกลับมาเดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบให้เร็วที่สุด
ล่าสุดนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายนรินทร์ เผ่าวณิช ผู้ว่าการ กฟผ. ได้ลงพื้นที่ตรวจการฟื้นฟูโรงไฟฟ้าจะนะหลังได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัย ซี่งมีการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้าง ตรวจจุดเก็บสารเคมีและถังเชื้อเพลิง รวมถึงระดมสูบน้ำออกจากพื้นที่และเก็บกวาดดินตะกอนโคลนภายในโรงไฟฟ้าหมดแล้ว พร้อมทั้งทำความสะอาดอุปกรณ์และจัดการขยะอันตราย โดยมีกำหนดเริ่มกลับมาเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ 1 ยูนิต กำลังผลิต 383 เมกะวัตต์ (MW) ภายใน 31 มกราคม 2569 และตั้งเป้าเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเต็มระบบ 1476 MW ภายใน 4 เดือน หรือประมาณเดือนมีนาคม 2569

“หลังจากการตรวจสอบโรงไฟฟ้าจะนะในวันนี้ พบว่า กฟผ. ดำเนินการฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความซับซ้อนของโครงสร้างโรงไฟฟ้า ระบบเครื่องกล ระบบไฟฟ้า และระบบควบคุม จำเป็นต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูประมาณ 4 เดือน จึงจะสามารถกลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติ ซึ่งได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างรัดกุม กำหนดกรอบและแผนการซ่อมแซมโดยละเอียด เพื่อให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็ว และขอให้ทดสอบความสมบูรณ์ก่อนจ่ายไฟฟ้า ขอยืนยันว่า ในช่วงระยะการฟื้นฟูโรงไฟฟ้าจะนะจะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าของภาคใต้ เนื่องจากได้ให้โรงไฟฟ้าขนอมและโรงไฟฟ้ากระบี่เดินเครื่องเต็มศักยภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคใต้แล้ว” นายอรรถพล กล่าวย้ำ


รมว.พลังงานยังสั่งการให้ กฟผ. ประสานงานไปยังโรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และโรงไฟฟ้าวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเตรียมสำรองอะไหล่สำหรับการซ่อมแซมหากจำเป็น เพื่อให้สามารถกู้คืนระบบกลับมาใช้งานได้โดยเร็ว รวมถึงหารือแผนป้องกันเหตุน้ำท่วมในอนาคต โดยเพิ่มงบลงทุนเรื่องการป้องกันน้ำท่วม ทั้งการเพิ่มความสูงของคันดินรอบโรงไฟฟ้าซึ่งปัจจุบันสูงถึง 4.5 เมตร และพิจารณาการวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระดับที่สูงขึ้นเพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วม




ด้านการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ กระทรวงพลังงาน โดย กฟผ. ได้ส่งมอบถุงยังชีพกว่า 10,000 ถุง น้ำดื่ม และข้าวกล่องแก่ผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงนำทีมวิศวกรและช่างจิตอาสาจากฝ่ายปฏิบัติการภาคกลาง ฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ ฝ่ายจัดการด้านการใช้พลังงาน เขื่อนรัชชประภา เขื่อนบางลาง และโรงไฟฟ้าจะนะกว่า 40 คน ร่วมลงพื้นที่ในโครงการฟื้นฟู ซ่อมแซม ระบบไฟฟ้า แสงสว่าง และตรวจสอบความเสียหายบ้านเรือนผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสงขลาของมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ระหว่างวันที่ 5 – 9 ธันวาคม เพื่อฟื้นฟูระบบไฟฟ้าให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในชุมชนรอบโรงไฟฟ้าจะนะและบ้านเรือนใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ดินโคลนเข้าไปอุดตัน ทำให้อาจมีกระแสไฟฟ้ารั่ว รวมถึงตัวอุปกรณ์บางส่วนชำรุดเสียหาย กฟผ. จึงเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้า อาทิ เบรคเกอร์ สวิตช์ไฟ ปลั๊กไฟ และหลอดไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงระบบไฟฟ้าให้กลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย














































