เมื่อเร็วๆ นี้ มีรายงานข่าวว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) โดยสถาบันนวัตกรรม ปตท. ได้รับมอบใบรับรองระบบงานหน่วยตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบก๊าซเรือนกระจก จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประเมินภายนอก (Validation and Verification Bodies : VVB) สำหรับให้บริการตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) ครอบคลุมถึง 7 ขอบข่าย ได้แก่ อุตสาหกรรมด้านพลังงาน การส่งจ่ายพลังงาน ความต้องการการใช้พลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมเคมี การขนส่ง และการดักจับและเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ใต้พื้นดิน
จึงเกิดความสนใจว่าการรับรองระบบงานหน่วยตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบก๊าซเรือนกระจกและการได้ขึ้นทะเบียนเป็น VVB นั้น มีความสำคัญอย่างไร? มีส่วนสนับสนุนภารกิจด้านการลดคาร์บอนของภาคธุรกิจอย่างไรบ้าง?
จากข้อมูล พบว่าหน่วยงานที่ผ่านการรับรองการตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบก๊าซเรือนกระจกของ สมอ. เป็นหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับว่ามีทักษะและความสามารถในการตรวจสอบและการทวนสอบข้อมูลก๊าซเรือนกระจกในภาคธุรกิจ ตามมาตรฐาน ISO 14065:2020 ที่กำหนดหลักการและข้อกำหนดสำหรับหน่วยตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบการแสดงปริมาณข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงก๊าซเรือนกระจก และ มาตรฐาน ISO/IEC 17029:2019 ที่เป็นมาตรฐานสากลในการกำหนดหลักการและข้อกำหนดสำหรับความสามารถในการดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ คงไว้ซึ่งมาตรฐานและความเป็นกลางของหน่วยตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบที่ดำเนินกิจกรรมการตรวจสอบและรับรองข้อมูลทุกประเภท ไม่จำกัดเฉพาะก๊าซเรือนกระจก
การที่องค์กรได้รับการรับรองดังกล่าว จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูลก๊าซเรือนกระจกที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองว่ามีความถูกต้อง มีคุณภาพ และโปร่งใส ซึ่งองค์กรที่ต้องการเข้าร่วมตลาดคาร์บอนเครดิต จะต้องมีข้อมูลก๊าซเรือนกระจกที่ผ่านการตรวจสอบและทวนสอบตามมาตรฐานนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและการเข้าถึงตลาดสากลแล้ว ยังสร้างความน่าเชื่อถือ และลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ สร้างความไว้วางใจและมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ว่าข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบนั้นอยู่บนพื้นฐานที่สมเหตุสมผลต่อการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและความความยั่งยืนขององค์กร สนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมาย และเพิ่มโอกาสและความยั่งยืนทางธุรกิจ
ส่วนผู้ประเมินภายนอก VVB สำหรับโครงการ T-VER คือ นิติบุคคลที่สาม (Third Party) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย อบก. ให้สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบความใช้ได้ของโครงการ (Validation) ประเมินว่าโครงการลดก๊าซเรือนกระจกสอดคล้องตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของ T-VER และทวนสอบรับรองผลการลด/ดูดกลับก๊าซเรือนกระจก (Verification) เพื่อตรวจสอบและยืนยันผลการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่โครงการสามารถลดได้จริง โดย T-VER คือกลไกภาคสมัครใจที่ อบก. พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคธุรกิจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและนำคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) ที่เกิดขึ้นไปใช้แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายสำหรับชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร งานบริหาร บุคคล หรือผลิตภัณฑ์
การมีหน่วยประเมินภายนอกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น VVB จะช่วยให้กระบวนการรับรองคาร์บอนเครดิตสอดคล้องตามมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับ และเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันในระดับสากล ภาคธุรกิจสามารถพัฒนาโครงการลด/ดูดกลับก๊าซเรือนกระจกและนำคาร์บอนเครดิตที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองจากผู้ประเมินภายนอกแล้วไปใช้ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมได้ เช่น แสดงหรือเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมในรายงานด้านความยั่งยืนองค์กรเพื่อดึงดูดนักลงทุน ส่งเสริมให้ประเทศไทยมีโครงการที่ช่วยลด/ดูดกลับก๊าซเรือนกระจกมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันมีองค์กรได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประเมินภายนอกของ อบก. ที่สามารถให้บริการตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบโครงการที่ขึ้นทะเบียนภายใต้ T-VER เพียง 16 ราย โดยสถาบันนวัตกรรม ปตท. เป็นหนึ่งในนั้น ที่ผ่านมาสถาบันนวัตกรรม ปตท. ได้สนับสนุนการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กรและผลิตภัณฑ์ รวมถึงขอการรับรองโครงการลดก๊าซเรือนกระจกให้กับ กลุ่ม ปตท. มาโดยตลอด และเมื่อขึ้นทะเบียนเป็น VVB จึงได้ต่อยอดความรู้ความชำนาญสู่การเป็นผู้ตรวจประเมินตามมาตรฐานสากลให้บริการองค์กรอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของไทย