กองทุนน้ำมันฯ เพิ่มเงินชดเชยราคา LPG พร้อมลดเก็บเงินโรงแยกก๊าซฯ เพื่อส่งเข้ากองทุนฯ กว่า 1 บาทต่อกิโลกรัม

29
- Advertisment-

กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ขยับเพิ่มเงินชดเชยราคา LPG ขึ้นอีกเป็น 0.9108 บาทต่อกิโลกรัม มีผลตั้งแต่ 15 ต.ค. 2568 พร้อมปรับลดเงินส่งเข้ากองทุนฯ สำหรับโรงแยกก๊าซฯ กว่า 1 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนภาพรวมบัญชี LPG ติดลบรวม -41,664 ล้านบาท แต่ยังมีเงินไหลเข้าประมาณ 842 ล้านบาทต่อเดือน สำหรับราคาจำหน่ายปลีก LPG ยังคงตรึงราคาที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จนถึงสิ้นเดือน ต.ค. 2568 

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า นางไพลิน ฟุ้งเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักการเงินและบัญชี และในฐานะรักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ได้ลงนามเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2568 ประกาศ “การกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุน และอัตราเงินชดเชยคืนกองทุนสำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)” โดยกำหนดเปลี่ยนแปลงเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในบัญชี LPG ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป

สำหรับประกาศดังกล่าวได้กำหนดให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ผลิตในประเทศเพื่อจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิง ในอัตรา 3.3468 บาทต่อกิโลกรัม โดยปรับลดลงจากเดิมที่กำหนดไว้ 4.6400 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวมถึง LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร และ LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) อ.กงไกรลาศ จ. สุโขทัย

- Advertisment -

อย่างไรก็ตามให้ บริษัท ยูเอซี โกลบอลฯ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตรา 1.7393 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 3.0325 บาทต่อกิโลกรัม

พร้อมกันนี้ได้ปรับเงินชดเชยราคา LPG เพิ่มขึ้นเป็น 0.9108 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมชดเชยอยู่ 0.3824 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวม LPG จากการแยกก๊าซฯ ที่ซื้อหรือได้จากรัฐ ผู้รับสัมปทาน หรือผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) โดยโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ.สยาม จำกัด โดยราคาขายปลีก LPG ยังคงเท่าเดิมที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ถึง 31 ต.ค. 2568 หลังจากนั้นต้องรอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาต่อไป

ส่วนเงินส่งเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ซื้อหรือได้มาจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด ยังคงเท่าเดิมที่ 5.0371 บาทต่อกิโลกรัม 

ขณะที่ LPG ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปต่างประเทศ ตาม พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 และได้รับเงินชดเชยจากกองทุนฯ แล้ว ให้ส่งเงินชดเชยคืนกองทุนฯ 0.9108  บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 0.3824 บาทต่อกิโลกรัม

สำหรับบัญชี LPG ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 19 ต.ค. 2568 ภาพรวมติดลบอยู่ -14,754 ล้านบาท โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) กำหนดกรอบวงเงินสำหรับอุดหนุนราคา LPG ได้ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ปัจจุบันกองทุนฯ มีเงินไหลเข้าจาก LPG จำนวน 28.08 ล้านบาทต่อวัน (ประมาณ 842 ล้านบาทต่อเดือน) ขณะที่ราคา LPG โลกล่าสุดในเดือน ก.ย. 2568 ยังอยู่ที่ระดับประมาณ 505 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน  

สำหรับประกาศดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่กำหนดนโยบายให้ กบน. บริหารกองทุนฯ อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความเสี่ยงกรณีเกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงดังนี้

1.มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้นทุนการจัดหาจากโรงแยกก๊าซฯ ,ต้นทุนโรงแยกก๊าซฯ ของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และต้นทุนโรงแยกก๊าซฯ ของบริษัท ยูเอซี โกลบอลฯ มีราคาสูงกว่านำเข้า 2.มีเหตุการณ์ที่ทำให้ราคา LPG ในตลาดโลกเปลี่ยนแปลงภายใน 2 สัปดาห์ เฉลี่ยมากกว่า 35 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน 3. มีเหตุการณ์ที่ทำให้ราคา LPG  ในประเทศเปลี่ยนแปลงภายใน 2 สัปดาห์ รวมกันมากกว่า 1 บาทต่อกิโลกรัม  และ 4. มีเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาขายปลีก LPG ในประเทศสูงขึ้นในระดับเกินกว่า 363 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ทั้งนี้เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนหรือชะลอการขาดแคลนในประเทศ เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและเศรษฐกิจของประเทศ

Advertisment