คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดรับฟังความเห็น “กรอบหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า (Electricity Tariff Regulatory Framework) ฉบับที่ 2” ระหว่างวันที่ 8-22 ส.ค. 2568 โดยสาระสำคัญ ให้อำนาจ กกพ. ออกคำสั่งให้ผู้เสนอค่าไฟฟ้าไปปรับอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ หากพบว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม การลงทุน หรือเทคโนโลยี และเสนอ กกพ. พิจารณาภายใน 30 วัน ชี้ประกาศฉบับใหม่นี้จะมีผลหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center – ENC ) รายงานว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดรับฟังความเห็น “กรอบหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า (Electricity Tariff Regulatory Framework) ฉบับที่ 2” ระหว่างวันที่ 8-22 ส.ค. 2568 นี้ ผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)
โดยสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ดังกล่าวระบุว่า อนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้า คือผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้ แต่ในกรณีมีเหตุจำเป็น กกพ. อาจพิจารณาแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ซึ่งดำรงตำแหน่งติดต่อกันมาแล้ว 2 วาระ ให้ดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่งได้
ส่วนกรณีที่ กกพ. ได้รับข้อเสนออัตราค่าไฟฟ้าจากผู้มีหน้าที่คิดค่าไฟฟ้าแล้ว ให้ กกพ. ดำเนินการตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วนตามเวลาที่กำหนด ถ้าครบถ้วนแล้ว ให้สำนักงาน กกพ. เสนอเรื่องต่อ กกพ. เพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาในการพิจารณากลั่นกรอง ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ จะทำหน้าที่พิจารณาข้อเสนออัตราค่าไฟฟ้าให้เสร็จตามเวลาที่ กกพ. กำหนด
อย่างไรก็ตามในกรณีที่ กกพ. เห็นว่าอัตราค่าไฟฟ้าไม่เหมาะสม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม การลงทุน หรือเทคโนโลยี ให้ กกพ. มีอำนาจออกคำสั่งปรับอัตราค่าไฟฟ้าเพื่อให้ผู้มีหน้าที่ นำไปปรับปรุงประกาศโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า หรือ ออกคำสั่งให้ผู้มีหน้าที่ปรับอัตราค่าไฟฟ้าเพื่อเสนอให้ กกพ. ให้ความเห็นชอบ โดยใช้วิธีการให้ผู้มีหน้าที่เสนอการปรับอัตราค่าไฟฟ้าพร้อมเอกสารครบสมบูรณ์ต่อสำนักงาน กกพ. ภายในเวลาที่กำหนด แต่ต้องไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่ออกคำสั่ง
เมื่อสำนักงาน กกพ. รับเอกสารแล้วให้เสนอต่อ กกพ. พิจารณา โดย กกพ. อาจมอบให้คณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองภายในระยะเวลาที่ กกพ. กำหนด และอาจให้ สำนักงาน กกพ. ดำเนินการเกี่ยวกับการเสนออัตราค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมให้ กกพ. พิจารณาก่อนให้ความเห็นชอบข้อเสนอการปรับอัตราค่าไฟฟ้าได้ เป็นต้น
สำหรับประกาศฉบับนี้จะเปิดรับฟังความเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นเวลา 15 วัน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาของ กกพ. และจะมีผลบังคับใช้ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สำหรับอัตราค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย.–ธ.ค. 2568 อยู่ที่ 3.94 บาทต่อหน่วย โดย กกพ. สามารถลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ลงได้ 4 สตางค์ต่อหน่วย จากเดิมที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอค่าไฟฟ้าที่ 3.98 บาทต่อหน่วย โดยมาจากการเรียกคืนเงินผลประโยชน์ส่วนเกินจาก 3 การไฟฟ้าได้ประมาณ 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,640 ล้านบาท เพื่อนำมาลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนได้สำเร็จ
