ผลตรวจสอบกระบวนการคัดเลือกผู้ร่วมโครงการไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ผ่านฉลุย สำนักงาน กกพ. ยืนยันทำถูกต้องตามกฎหมายและเป็นไปตามมติ กพช. เตรียมเดินหน้าลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสีเขียวกับผู้ผ่านเข้าร่วมโครงการ 72 รายที่เคยประกาศชื่อไว้เมื่อปลายปี 2567 ระบุขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนการพิจารณาราคารับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม เหตุราคาอ้างอิงเดิมเป็นราคาโซลาร์ลอยน้ำซึ่งเป็นคนละเภทกัน จึงต้องพิจารณาราคาให้เหมาะสมก่อน
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า จากกรณีที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2568 มีมติชะลอการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 หรือ “โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรม ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับปี 2565 – 2573” จำนวน 2,180 เมกะวัตต์ ตามที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เสนอ เพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางกฎหมายก่อนว่า การเปิดรับซื้อไฟฟ้าสีเขียว 2,180 เมกะวัตต์ ที่กำหนดให้ “เฉพาะกลุ่มผู้ที่ผ่านคุณสมบัติแต่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการไฟฟ้าสีเขียวในรอบแรก” จะได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมโครงการเฟส 2 ก่อนนั้น จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่
ส่งผลให้มติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่กำหนดให้ “กลุ่มผู้ที่ผ่านคุณสมบัติแต่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการไฟฟ้าสีเขียวในรอบแรก” จะได้รับการพิจารณาเข้าร่วมโครงการไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ซึ่งมีจำนวน 72 ราย ต้องถูกชะลอการลงนามซื้อขายไฟฟ้าไปก่อน
ล่าสุด นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการที่ตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการเปิดรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 จำนวน 2,180 เมกะวัตต์ ได้เข้าตรวจสอบแล้วและพบว่าไม่มีความผิด ซึ่ง กกพ. ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้องตามมติ กพช. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามทางนายพีระพันธุ์ ได้ขอให้ตรวจสอบราคารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ เนื่องจากเดิมใช้ราคาอ้างอิงของโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนผิวน้ำ หรือ โซลาร์ลอยน้ำของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แต่โครงการที่ให้ยื่นข้อเสนอเข้ามาในเฟส 2 เป็นประเภทโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ซึ่งเป็นคนละประเภทกัน สมมุติฐานจึงไม่เหมือนกัน
ดังนั้นทาง กฟผ. และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กำลังคำนวณราคาใหม่ หากพบว่าราคาสูงกว่าที่กำหนดรับซื้อเดิม จะต้องแจ้งไปยัง กพช. ก่อน แต่หากราคาไม่สูงไปกว่าเดิมก็สามารถเข้าสู่กระบวนการเจรจากับผู้ที่ผ่านเข้าร่วมโครงการในกลุ่ม 72 รายได้ ตามที่ กกพ. ประกาศไว้ ทั้งนี้คาดว่าจะดำเนินการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ในโควตา 2,180 เมกะวัตต์ได้โดยเร็ว เนื่องจากขั้นตอนทุกอย่างที่ กกพ. ดำเนินการมาถูกต้องตามกฎหมายและตามมติ กพช. แล้ว
ทั้งนี้ที่ผานมา สำนักงาน กกพ. เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2567 ได้ประกาศจำนวนผู้ผ่านเข้าร่วมโครงการไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ทั้งสิ้น 72 ราย โดยแบ่งเป็น 1. ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม 8 ราย รวมกำลังผลิต 565.40 เมกะวัตต์ 2.ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน จำนวน 64 ราย รวม 1,580 เมกะวัตต์ หรือรวมปริมาณทั้งสิ้น 2,145.40 เมกะวัตต์
สำหรับราคารับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบโซลาร์ฟาร์มนั้น ที่ผ่านมามติ กพช. เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2565 กำหนดราคารับซื้อไฟฟ้าตามต้นทุนที่แท้จริงไว้ในอัตรา 2.1679 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 25 ปี