“เศรษฐา ทวีสิน “ชม 45 ปี ปตท.ความภาคภูมิใจของคนไทย รัฐบาลพร้อมหนุน ขยายการลงทุนมากขึ้นในต่างประเทศ

358
- Advertisment-

นายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” เปิดงาน 45 ปี ปตท. ชื่นชมเป็นบริษัทที่คนไทยภาคภูมิใจ โดยหนุนให้ออกไปขยายการลงทุนมากขึ้นในต่างประเทศ และเป็นพันธมิตรกับบริษัทข้ามชาติที่จะเข้ามาลงทุนในไทย รวมทั้งขอให้ช่วยปั้นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ให้ยกระดับเป็นเจ้าสัวน้อยที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ช่วงค่ำวานนี้ (12 ธันวาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน “PTT 45th Anniversary” Ignite Life Potential ซึ่งเป็นงานเลี้ยงรับรองขอบคุณผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เนื่องในวาระครบรอบ 45 ปี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยมี ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานกรรมการ ปตท. นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน ปตท. ร่วมต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มีส่วนสนับสนุน ปตท. มาโดยตลอด ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

- Advertisment -

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานพร้อมให้ข้อคิดกับผู้บริหาร ปตท.

โดยนายเศรษฐา กล่าวบนเวทีช่วงหนึ่ง ว่า ปตท.เป็นบริษัทที่มีการเติบโตมาอย่างยั่งยืน เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่มีบริษัทคนไทยก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกได้  โดยพิสูจน์จากความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจตลอด 45 ปีที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่เรายังคิดถึงน้อยมากสำหรับ ปตท. คือ การที่ ปตท.มีความร่วมมือกับทุกรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และการดูแลพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ในทุกๆวิกฤต โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นเพียงอย่างเดียว แต่ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ ความสุขสบายของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน

นายเศรษฐา ยังได้ให้ข้อคิดกับผู้บริหาร ปตท.ที่มาร่วมในงานด้วย ว่า ด้วยงบดุลทางการเงินของปตท.ที่แข็งแกร่งมากจึงอยากเห็นการขยายการลงทุนของ ปตท.ที่มากขึ้นในต่างประเทศ โดยทุนของคนไทย และด้วยองค์ความรู้ของคนไทย ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกหลายประเทศที่ ปตท.สามารถไปขยายการลงทุนได้ โดยที่รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ในขณะที่การดึงการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุนในประเทศ ที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดรับ ก็ให้ ปตท.เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร  รวมทั้งอยากให้ปตท.เป็นองค์กรแห่งความหวังของคนรุ่นใหม่ นักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่จะช่วยผลักดันให้ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ เป็นเจ้าสัวน้อย โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเข้ามาเป็นพนักงานของ ปตท. เพื่อที่คนกลุ่มนี้จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเคียงข้างไปด้วยกันกับ ปตท.ในอนาคต

“ภารกิจอันยิ่งใหญ่ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยังไม่จบแค่นี้ ขอเป็นกำลังใจ แรงใจ ขอเป็นเพื่อนที่เดินไปด้วยกันในอนาคตที่สดใส ยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องคนไทยทุกคนให้ดีขึ้นควบคู่ไปกับ ปตท.” นายเศรษฐา กล่าวในช่วงท้ายบนเวที

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.

ด้าน นายอรรถพล เปิดเผยว่า การก้าวสู่ปีที่ 45 ในปี พ.ศ. 2566 ของ ปตท. อาจเปรียบเทียบได้กับวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านประสบการณ์ชีวิตมากพอที่จะเรียนรู้จากอดีตและมองถึงอนาคต มีความรับผิดชอบ และทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนเคียงข้างกับคนทุกวัย ซึ่งกิจกรรมวาระพิเศษในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเสมือนตัวแทนของประชาชนทุกภาคส่วน ที่สนับสนุนการเติบโตของ ปตท. มาตลอด ในฐานะบริษัทพลังงานของคนไทย ที่มีภารกิจในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ พร้อมสร้างการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนแก่สังคม

 “ตลอด 45 ปีของการเติบโตจนถึงวันนี้ ปตท. ขอให้ความเชื่อมั่นว่าจะไม่หยุดพัฒนา และยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต และธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน พร้อมกับการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อให้ ปตท. สามารถเติบโตในระยะยาวคู่กับประเทศไทยได้อย่างมั่นคง ตามวิสัยทัศน์ ‘Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต’ พร้อมเป็นกำลังสำคัญ ยกระดับอุตสาหกรรมใหม่ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทย เพื่อให้ ปตท. เป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยตลอดไป” นายอรรถพล กล่าว

บิร์ด-ธงไชย อิ้งค์-วรันธร ร่วมร้องเพลง “เธอคือพลังของฉัน”
ส่วนหนึ่งของการแสดงบนเวที

ในส่วนของไฮไลท์สำคัญอื่นๆภายในงาน มีการจัดนิทรรศการผลงานของ ปตท. อาทิ การพัฒนาธุรกิจก๊าซธรรมชาติ การพัฒนาธุรกิจน้ำมันจนถึง PTT Life Station การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของไทย การพัฒนา EV Ecosystem โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ และการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดความผูกพันระหว่าง ปตท. และคนไทย ในรูปแบบละครเวที และปิดท้ายด้วยบทเพลงพิเศษในวาระ 45 ปี ปตท. “เธอคือพลังของฉัน” ขับร้องโดยศิลปินระดับประเทศอย่าง เบิร์ด-ธงไชย อิ้งค์-วรันธร ที่สื่อสารมาตลอดปี 2566 เพื่อแสดงความขอบคุณคนไทยในโอกาสนี้

อนึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้จัดขึ้นในรูปแบบการจัดงานแบบ Carbon Neutral Event หรืองานปลอดคาร์บอน ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยใช้คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) จากกิจกรรมการปลูกป่าของ ปตท. มาชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมในการจัดงาน ให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากงานเท่ากับศูนย์ จึงมั่นใจได้ว่าการจัดงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามเป้าหมายในแนวทางการดำเนินงาน PTT NET ZERO EMISSIONS ภายในปี ค.ศ. 2050

Advertisment