หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมัน ประจำสัปดาห์วันที่ 29 ก.ย. – 3 ต.ค. 68 และแนวโน้มในสัปดาห์วันที่ 6 – 10 ต.ค. 68 โดยระบุว่าราคาน้ำมันโลกได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทวีความรุนแรงขึ้น

ยูเครนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 26 ก.ย. 68 ซากโดรนของยูเครนตกลงบนโรงกลั่น Afipsky (144,000 บาร์เรลต่อวัน) ทางใต้ของรัสเซียบริเวณชายฝั่งทะเลดำ ส่งผลให้เกิดเหตุเพลิงไหม้และต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว ขณะที่วันที่ 28 ก.ย. 68 รัสเซียใช้โดรนมากกว่า 500 ลำและมิสไซล์ โจมตีทางอากาศตอบโต้ไปยังหลายพื้นที่ รวมทั้งกรุง Kyiv เมืองหลวงของยูเครน
วันที่ 28 ก.ย. 68 สหประชาชาติ (United Nations: UN) รื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านที่ละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ Joint Comprehensive Plan of Action (JCPOA) หลังกลุ่มประเทศ E3 (ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร) ใช้กลไก Snapback เหตุจากอิหร่านไม่ให้ความร่วมมือกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency: IAEA) โดยเฉพาะการไม่ยินยอมให้ IAEA เข้าตรวจสอบฐานนิวเคลียร์ที่ถูกสหรัฐฯ และอิสราเอลโจมตีเมื่อเดือน มิ.ย. 68
ด้านสำนักข่าว Reuters รายงานว่าสมาชิกกลุ่ม OPEC+ (8 ประเทศ) มีแนวโน้มตัดสินใจเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน พ.ย. 68 อีกย่างน้อยเดือนละ 137,000 บาร์เรลต่อวัน ในการประชุมวันที่ 5 ต.ค. 68 เพื่อชดเชยในส่วนที่อาสาลดการผลิตโดยสมัครใจ (ปริมาณ 1.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน) อย่างไรก็ดี ปริมาณการผลิตของสมาชิกหลายประเทศเริ่มใกล้เต็มศักยภาพ จึงอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ตกลงได้
สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ (U.S. Bureau of Economic Analysis: BEA) รายงานว่าดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน (Core Personal Consumption Expenditure: Core PCE) ซึ่งใช้ชี้วัดอัตราเงินเฟ้อในเดือน ส.ค. 68 อยู่ที่ +2.9% จากปีก่อนหน้า สูงสุดในรอบ 6 เดือน