หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมัน ประจำสัปดาห์วันที่ 25-29 ส.ค. 68และแนวโน้มในสัปดาห์วันที่ 1-5 ก.ย. 68 โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์อุปทานน้ำมันดิบที่จะลดลงกว่า 3 เท่าและการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ชะงักงัน
EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ส.ค. 68 ลดลง 6.0 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 420.7 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ (Reuters คาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า)
ด้าน รมว. กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย นาย Sergei Lavrov ระบุถึงการเจรจาสันติภาพในยูเครนจะไม่สำเร็จหากไม่มีรัสเซียเข้าร่วม และเน้นย้ำว่าต้องการเจรจาโดยตรงและเสนอให้นำร่างข้อตกลงสันติภาพปี 2565 ที่ Istanbul ในตุรกีมาใช้ เพราะจะทำให้รัสเซียสามารถใช้สิทธิ Veto ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council – UNSC) เพื่อพิจารณาเป็นต้นแบบการเจรจรา แต่ยูเครนเคยปฏิเสธแนวทางดังกล่าว
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรนาย Antonios Margaritis ผู้ประกอบการด้านเรือขนส่งชาวกรีกและบริษัทในเครือ เพื่อปราบปรามเครือข่ายกองเรือเงา (Shadow Fleet) ที่ลักลอบขนส่งน้ำมันดิบอิหร่านซึ่งละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (European Union: EU) ร่วมแถลงการณ์รายละเอียดข้อตกลงการค้า โดยสหรัฐฯ จะใช้อัตราภาษีตามหลักการ Most Favored Nation (MFN) ที่ 15% สำหรับสินค้านำเข้าจาก EU ในกลุ่มยานยนต์ เวชภัณฑ์ และเซมิคอนดักเตอร์ (ขณะที่ประเทศอื่นจะถูกเรียกเก็บในอัตรา 30%, 250% และ 100% ตามลำดับ) โดย EU ตกลงว่าจะนำเข้าสินค้าในกลุ่มพลังงานจากสหรัฐฯ มูลค่า 7.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 6.0 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
