ปตท. รายงานโอมิครอนทุบราคาน้ำมันดิบร่วงต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ คาดวีคนี้ยังผันผวน

260
- Advertisment-

ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยรายสัปดาห์ (29 พ.ย.- 3 ธ.ค. 64) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 จากความกังวลต่อการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ภาคอุตสาหกรรม และความต้องการใช้น้ำมันของโลก คาดสัปดาห์นี้ (6-10 ธ.ค. 64) ราคามีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบกว้างระหว่าง 69 – 77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  

โดย Platts คาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2565 ให้เพิ่มขึ้นเพียง 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.9  ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ Goldman Sachs ปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐฯ ในปี 2565 อยู่ที่ 3.8% จากปีก่อนหน้า จากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 4.2% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron จะทำให้เศรษฐกิจพื้นตัวช้าลง โดยที่ทั่วโลกยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก่อนจะยืนยันข้อสรุปว่า COVID-19 สายพันธุ์ Omicron อาจมีอันตรายน้อยกว่าสายพันธุ์ Delta หรือไม่

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยรายสัปดาห์ (29 พ.ย.- 3 ธ.ค. 64)
ราคาน้ำมันย้อนหลัง 15 วัน

นอกจากนั้น ตลาดยังติดตามการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ (Joint Comprehensive Plan of Action: JCPOA) ระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจ P5+1 (สหรัฐฯ, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, จีน และเยอรมนี) ในรอบที่ 7 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 64 ยุติลงโดยไม่บรรลุข้อตกลง และการเจรจาครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 8 ธ.ค. 64 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ทั้งนี้ Reuters รายงานว่า อิหร่านผลิตน้ำมันดิบในเดือน พ.ย. 64 อยู่ที่ 2.48 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยอิหร่านจะสามารถผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสู่ระดับก่อนถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร ที่ 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ

- Advertisment -

ด้านเทคนิค สัปดาห์นี้ราคา ICE Brent มีแนวโน้มอยู่ในกรอบ 69 – 77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และมีโอกาสที่ ICE Brent จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ คือ 73.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 26 พ.ย. 64 ลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 433.1 ล้านบาร์เรล (นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า)

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ ที่ประชุม OPEC+ มีมติเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ม.ค. 65 ที่ระดับ 400,000 บาร์เรลต่อวัน แม้ได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากประเทศผู้บริโภค โดยเฉพาะสหรัฐฯ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหราชอาณาจักร ที่ประกาศระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) ปริมาณรวม 80 ล้านบาร์เรล

Advertisment