กพช.แก้ไขมติเดิม ปลดล็อค SPP จำนวน14รายทั้งโกลว์- กัลฟ์- บี.กริม เดินหน้าต่อ

3008
- Advertisment-

กพช.เห็นชอบแนวทางการดำเนินการกับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ระบบ Cogeneration ที่สิ้นสุดอายุสัญญา โดยแก้ไขมติเดิมให้ครอบคลุมSPPที่สิ้นสุดอายุในปี2559  การมอบให้กกพ.พิจารณาต่ออายุสัญญาให้กลุ่มSPPที่สิ้นสุดอายุสัญญาในช่วงปี2562-2564 ที่สร้างโรงไฟฟ้าเสร็จไม่ทันตามกำหนด  และการกำหนดอัตรารับซื้อไฟฟ้าสำหรับSPPที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง โดย ผลจากมติดังกล่าว  ช่วยปลดล็อคให้SPP ทั้ง 14 ราย อาทิ โรงไฟฟ้าของกลุ่มบริษัท โกลว์ , อมตะ บี.กริม ,กัลฟ์ ,บริษัทเนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย  พีทีที ปิโตรเคมิคอลล์  เดินหน้าต่อได้

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยในการแถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2562 ว่า หนึ่งในวาระการพิจารณาคือเรื่องแนวทางการดำเนินการกับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ระบบ Cogeneration ที่สิ้นสุดอายุสัญญา จำนวน25ราย  ที่กพช.เคยมีมติ ไปตั้งแต่วันที่30พ.ค.2559 ที่ผ่านมา แต่พบว่ายังมีปัญหาในการนำไปปฏิบัติ  โดยในครั้งนี้ ที่ประชุมกพช. เห็นชอบการปรับปรุงช่วงเวลาการสิ้นสุดอายุสัญญาของ SPP ระบบ Cogeneration  จากเดิมที่เคยให้มีมติครอบคลุมเฉพาะในรายที่สิ้นสุดสัญญาตั้งแต่ปี 2560-2561 ให้แก้ไขครอบคลุมเป็น ตั้งแต่  ปี 2559 – 2561

ผลจากการแก้ไขมติดังกล่าวจะทำให้ โรงไฟฟ้าของบริษัทโกลว์ พลังงาน จำกัด  (มหาชน)  โครงการ 1 กำลังผลิตติดตั้ง150เมกะวัตต์  มีสัญญาขายไฟฟ้าจำนวน90เมกะวัตต์ ที่สิ้นสุดอายุสัญญา31มีนาคม 2559  จะสามารถได้รับการต่ออายุสัญญาไปเป็นระยะเวลา ให้มีระยะเวลาสัญญา 3 ปีโดยให้ใช้เชื้อเพลิงตามสัญญาเดิม ปริมาณรับซื้อไม่เกิน 60 เมกะวัตต์ และไม่เกินกว่าปริมาณขายไฟฟ้าตามสัญญาเดิม ราคารับซื้อไฟฟ้า (ณ ราคาก๊าซ 263 บาทต่อล้านบีทียู) ในอัตรา 2.3753 บาทต่อหน่วย เช่นเดียวกับรายที่สิ้นสุดอายุสัญญาในปี2560-2561 ที่มีจำนวน3ราย

- Advertisment -

สำหรับกลุ่มที่จะสิ้นสุดภายในปี 2562–2568 จำนวน21ราย ที่มีมติให้ ก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเดิม  ระยะเวลาสัญญา 25 ปี ปริมาณรับซื้อไม่เกิน 30 เมกะวัตต์และไม่เกิน 30% ของกำลังผลิตไฟฟ้าสุทธิรวมไอน้ำ (Net Generation) ไฟฟ้ารวมไอน้ำ และจะต้องไม่เกินกว่าปริมาณขายไฟฟ้าตามสัญญาเดิม ราคารับซื้อไฟฟ้า ในอัตรา 2.8186 บาทต่อหน่วย (ที่ราคาก๊าซธรรมชาติ 263 บาทต่อล้านบีทียู)  นั้น ในส่วนที่กำลังจะสิ้นสุดอายุสัญญาในปี 2562-2564 และไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้ทัน ให้ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) พิจารณาต่ออายุสัญญา  เพื่อให้สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ผลจากมติดังกล่าว จะครอบคลุมถึงผู้ประกอบการSPP 8ราย  ประกอบด้วย

1.โรงไฟฟ้าของกรมการพลังงานทหาร  อ.ฝาก จ.เชียงใหม่ กำลังผลิตติดตั้ง10เมกะวัตต์  ใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิง

2.โรงไฟฟ้าของบริษัทกัลฟ์ โคเจนเนอเรชั่น  จำกัด ที่แก่งคอย จ.สระบุรี กำลังผลิตติดตั้ง 111 เมกะวัตต์  

3โรงไฟฟ้าของบริษัทอมตะ บี.กริม  เพาเวอร์1จำกัด  ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี กำลังผลิตติดตั้ง 168 เมกะวัตต์

4.โรงไฟฟ้าของบริษัทบางกอก โคเจนเนอเรชั่น จำกัด  ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด  จ.ระยอง กำลังผลิตติดตั้ง 115 เมกะวัตต์

5.โรงไฟฟ้าของบริษัท สุมทรปราการโคเจนเนอเรชั่น จำกัด ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ. สมุทรปราการ กำลังผลิตติดตั้ง 128 เมกะวัตต์

6.โรงไฟฟ้าของบริษัทโกลว์ เอสพีพี1จำกัด โครงการ1  ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก  จ.ระยอง กำลังผลิตติดตั้ง 67 เมกะวัตต์

7.โรงไฟฟ้าของบริษัทโกลว์ เอสพีพี1จำกัด โครงการ2  ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก  จ.ระยอง กำลังผลิตติดตั้ง 66 เมกะวัตต์

8.โรงไฟฟ้าของบริษัทหนองแคโคเจนเนอเรชั่น ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช  จ.สระบุรี กำลังผลิตติดตั้ง  131 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ กพช.ยังเห็นชอบให้มีการปรับปรุงแก้ไขมติเดิมในส่วนของราคารับซื้อไฟฟ้าจากโครงการ SPP ที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน ซึ่งที่ผ่านมาในมติเดิม ยังไม่ได้มีการกำหนดราคารับซื้อ  ทำให้ผู้ประกอบการSPP จำนวน5รายที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน ไม่สามารถปฎิบัติตามมติกพช.ได้   โดยมติที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ให้รับซื้อไฟฟ้า จากSPP ที่ใช้ถ่านหิน ในส่วนของโรงไฟฟ้าที่สร้างใหม่ ในอัตรา2.54 บาทต่อหน่วย และอัตรารับซื้อที่ 1.24 บาทต่อหน่วย สำหรับโรงที่มีการต่ออายุสัญญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงไฟฟ้าSPP ทั้ง5ราย ที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน นั้น ประกอบด้วย

1.โรงไฟฟ้าของบริษัทพีทีที ปิโตรเคมิคอลล์ จำกัด (มหาชน ) ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด  จ.ระยอง กำลังผลิตติดตั้ง 55 เมกะวัตต์  

2.โรงไฟฟ้าของบริษัทเนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย  จำกัด(มหาชน) โครงการ1  ที่อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี กำลังผลิตติดตั้ง 164 เมกะวัตต์  

3.โรงไฟฟ้าของบริษัทเนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย  จำกัด(มหาชน) โครงการ2  ที่อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี กำลังผลิตติดตั้ง 164 เมกะวัตต์  

4.โรงไฟฟ้าของบริษัทโกลว์ เอสพีพี3 จำกัด โครงการ1 ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง  กำลังผลิตติดตั้ง 160 เมกะวัตต์  

  1. โรงไฟฟ้าของบริษัทโกลว์ เอสพีพี3 จำกัด โครงการ2 ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง กำลังผลิตติดตั้ง 160 เมกะวัตต์
Advertisment