กกพ. เสนอ 2 ทางเลือก ปรับขึ้นค่าไฟ หรือตรึงเอาไว้ก่อน เปิดรับฟังความเห็น 10-23 พ.ย. 2568 นี้

178
- Advertisment-

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เสนอ 2 ทางเลือกในการปรับค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2569 คือ ทางเลือกที่ 1 ชำระคืนหนื้ กฟผ. ในครั้งเดียวหมด 47,058 ล้านบาท ส่งผลให้ค่า Ft แตะ 79.75 สตางค์ต่อหน่วย แต่ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ 4.58 บาทต่อหน่วย ส่วนทางเลือกที่ 2 คือตรึงค่า Ft ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ค่าไฟฟ้าจะอยู่เท่าเดิมที่ 3.94 บาทต่อหน่วย ทยอยจ่ายคืนหนี้ กฟผ. ครั้งละ 6,141 ล้านบาท พร้อมเปิดรับฟังความเห็นประชาชนระหว่าง 10-23 พ.ย. 2568 นี้

นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ. ) ได้เปิดรับฟังความเห็นอัตราค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2569 ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ระหว่างวันที่ 10-23 พ.ย. 2568 เพื่อประกอบการพิจารณาประกาศเรียกเก็บค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค-เม.ย. 2569 ต่อไป

สำหรับการคำนวณค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2569 ได้แบ่งอัตราค่าไฟฟ้าเป็น 2 ทางเลือกในการรับฟังความเห็น ได้แก่   

- Advertisment -

ทางเลือกที่ 1 จ่ายคืนภาระต้นทุนการจัดหาไฟฟ้าคงค้าง (AF) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งหมดในงวดเดียว จำนวน 47,058 ล้านบาท จะทำให้ค่า Ft อยู่ที่ 79.75 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมอยู่ที่ 4.58 บาทต่อหน่วย

ส่วนทางเลือกที่ 2 ตรึงค่า Ft เท่ากับงวดปัจจุบัน (ก.ย.- ธ.ค. 2568) ซึ่งเป็นข้อเสนอของ กฟผ. โดยค่า Ft จะอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐาน 3.78 บาทต่อหน่วยจะทำให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมอยู่ที่ 3.94 บาทต่อหน่วย แต่การชำระหนี้จะเป็นการทยอยชำระคืนภาระต้นทุนการจัดหาไฟฟ้าคงค้างของ กฟผ. คิดเป็นจำนวนเงิน 6,141 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามการเปิดรับฟังความเห็นค่าไฟฟ้าในครั้งนี้เหลือทางเลือกเพียง 2 แนวทาง จากปกติจะมี 3 แนวทาง เนื่องจากภาระคงค้างค่าก๊าซธรรมชาติ (AF) ที่ต้องจ่ายคืนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ กฟผ. นั้น ทาง กกพ. ได้มีมติให้ทยอยจ่ายคืน 6 งวด ในอัตรา 2,580 ล้านบาทต่องวด โดยจะแบ่งเป็นจ่ายคืน กฟผ. 633 ล้านบาท และ จ่ายคืน ปตท. 1,947 ล้านบาท ซึ่งทำให้ภาระดังกล่าวมีกำหนดจ่ายคืนที่แน่ชัด และไม่ถูกนำมาจัดทำเป็นการคำนวณค่าไฟฟ้าในกรณีที่ 3 แต่อย่างใด

สำหรับแนวโน้มค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2569 นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนไทย เนื่องจากต้นทุนค่าไฟฟ้าไม่สูงเกินไป เพราะราคาเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติใน Pool Gas มีแนวโน้มปรับลดลงจาก 299 บาทต่อล้านบีทียู เหลือ 288 บาทต่อล้านบีทียู  รวมถึงราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในตลาดจร (Spot LNG) มีราคาลดลงจาก 13.93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู เหลือ 12.61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู รวมถึงราคาน้ำมันเตา,ดีเซล และถ่านหินนำเข้า ก็ปรับลดลง นอกจากนี้ค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นจาก 32.95 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ เป็น 32 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ ทำให้สามารถซื้อเชื้อเพลิงจากต่างประเทศได้ในราคาถูกลง โดยเหตุที่ต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าถูกลงนี้ เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่เติบโต และสภาพอากาศไม่ได้รุนแรง

Advertisment