ปตท.สผ.คาดลงทุน1ล้านล้านบาทรักษาระดับการผลิตก๊าซเอราวัณ-บงกชช่วง10ปี

- Advertisment-

ปตท.สผ.คาดใช้เงินลงทุนกว่า1ล้านล้านบาทรักษาระดับการผลิตแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณและบงกชให้มีความต่อเนื่องในช่วง10ปี พร้อมเปิดทางพันธมิตรร่วมลงทุนรายที่3ถือหุ้นในแหล่งเอราวัณ หลังจากที่ดำเนินการผลิตตามสัญญาPSC ไปแล้วอย่างน้อย1ปี

นายพงศธร ทวีสิน  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ1ล้านล้านบาทในช่วง10ปี เพื่อรักษาระดับการผลิตก๊าซ เอาไว้ไม่ต่ำกว่า 1,500ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ในแหล่งเอราวัณและบงกช ที่บริษัทชนะการประมูล ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตหรือPSC  โดยแบ่งเป็นการลงทุนในแหล่งบงกชประมาณ3-4แสนล้านบาท และแหล่งเอราวัณ ประมาณ6-7แสนล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเริ่มดำเนินการตามสัญญาตั้งแต่ เดือนเม ย.2565เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตามบริษัทยอมรับว่า การชนะประมูลทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ ด้วยราคาก๊าซตามข้อเสนอในทีโออาร์ประมูลซึ่งต่ำกว่าสัญญาในปัจจุบัน บริษัทจะมีกำไรต่อยูนิตที่ต่ำลง  และ ในภาพรวมแล้วกำไรของบริษัทจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น  โดยการชนะทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ จะช่วยให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนการผลิตให้ลดลงจากเดิม ได้ประมาณ20-25% เพราะสามารถที่จะมีอำนาจต่อรองกับซัพพลายเออร์ต่างๆได้ดีขึ้น

- Advertisment -

นายพงศธร กล่าวว่า การลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม นั้นต้องใช้เงินลงทุนสูงและมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ตามหลักการจึงต้องการพันธมิตรร่วมทุนรายที่สาม เพื่อเข้ามาช่วยลดความเสี่ยง  แต่เงื่อนไขที่รัฐกำหนด การเข้าร่วมทุนจะต้องรอหลังจากที่บริษัทดำเนินการตามสัญญาแบ่งปันผลผลิตไปแล้วอย่างน้อย1ปี  ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเชิญชวนทั้ง กลุ่มเชฟรอน  มิตซุยออยล์ ที่เป็นผู้รับสัมปทานในแหล่งเอราวัณเดิม   หรือเป็นบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าที่สนใจจะเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจอัพสตรีม ที่จะช่วยการันตีเรื่องของความมั่นคงทางด้านเชื้อเพลิง

ทั้งนี้ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าประเทศ หรือ PDP2018  นั้นมีการเพิ่มสัดส่วนการใช้ก๊าซมากขึ้นจากแผนเดิมคือ 30%เป็น 53%  ทำให้การผลิตก๊าซจากทั้งแหล่งเอราวัณและบงกช มีตลาดรองรับที่ชัดเจน รวมทั้งมีราคาที่แข่งขันได้กับLNG นำเข้าด้วย

Advertisment