“คณะอนุกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ“ที่มีนาย นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เป็นประธาน ยังคงเดินหน้าเร่งจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ (PDP) ฉบับใหม่ ซึ่งตัวแทนภาคเอกชนด้านพลังงานระบุ เริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ในการร่วมกันออกแบบแผนPDP ที่จะพาประเทศไทยไปให้รอดด้วยพลังงานสะอาด ในขณะที่ สนพ.ตั้ง 7 ประเด็นที่ต้องเคลียร์กันให้ชัดเจน
แม้ว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี จะยุบสภาไปเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา และปัจจุบันเป็บคณะรัฐมนตรีรักษาการ แต่ คณะอนุกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ“ที่มีนาย นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เป็นประธานที่แต่งตั้งโดยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ยังคงเดินหน้าทำหน้าที่เร่งจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ ให้แล้วเสร็จ เพื่อให้นำมาใช้ทดแทน แผนPDP2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ที่ใช้อย่างเป็นทางการอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งไม่ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน และไม่เป็นแผนที่ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุน แม้ว่าขั้นตอนในการอนุมัติเพื่อให้ แผนPDP ฉบับใหม่ที่ถูกนำมาใช้ได้จริงจะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ก่อนก็ตาม

ล่าสุด นายนที สิทธิประศาสน์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท) ซึ่งร่วมอยู่ในคณะอนุกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ กล่าวบนเวทีคอนเสิร์ตกระชับมิตร ” เพื่อนชวนเพื่อน มาฮีลใจ “ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 ธันวาคม 2568 เพื่ออัพเดทความคืบหน้าการจัดทำแผนPDP ฉบับใหม่ ให้กับภาคเอกชนที่มาร่วมงานคอนเสิร์ต ได้รับทราบว่า ทางคณะอนุกรรมการฯ ได้เร่งจัดทำแผนโดยนัดประชุมกันทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน เพื่อหวังให้แผนแล้วเสร็จตามที่ได้รับมอบหมาย จาก กบง.

โดยเขามองว่า แผนPDP ฉบับใหม่ หากออกแบบไม่ดี จะวิกฤตของประเทศ แต่ในทางกลับกัน หากออกแบบให้ดี สามารถสนองความต้องการเรื่อง Green Supply Chain เพิ่มสัดส่วนไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ไฟฟ้าสีเขียว พลังงานสะอาด ให้มีใช้อย่างเพียงพอ แผนPDP ฉบับใหม่ จะกลายเป็นโอกาส ที่จะช่วยให้ประเทศไทยรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ
“ที่ผมได้มีส่วนร่วมจัดทำแผนPDP ฉบับใหม่ อยากจะบอกว่า เราเริ่มเห็นแสงสว่างจากปลายอุโมงค์ ว่าแผนจะออกมาตอบโจทย์ที่เราตั้งไว้ คณะร่างแผน PDP ที่ตั้งมายังทำงานอยู่ แม้ว่ารัฐบาลจะยุบสภาไปแล้ว เราประชุมกันทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ 3 วันเร่งทำให้เสร็จ ในส่วนของตัวแทนภาคเอกชนที่เข้าไปนั่งอยู่ในคณะอนุกรรมการ จะพยายามผลักดันเต็มที่ ไม่ใช่แค่เพื่อถาคเอกชน แต่ทำเพื่อประเทศไทย ถ้าเรามีแผนที่ดี มีพลังงานสะอาดใช้อย่างพอเพียง ประเทศไทยไปรอดแน่ “ นายนที กล่าว ซึ่งเรียกเสียงปรบมือจากผู้ที่มาร่วมงานคนเสิร์ต

ก่อนหน้านี้ นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ไปบรรยายหัวข้อ “แผน PDP ใหม่ตอบ โจทย์อนาคตพลังงานประเทศ” ในวาระครบรอบการดำเนินงาน 10 ปี ของ ศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) โดยระบุถึงสาระการประชุมของคณะอนุกรรมการฯนัดแรก เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมมีการเสนอทำแผนใหม่ที่จะสิ้นสุดแผนในปี ค.ศ. 2040 (พ.ศ. 2583) จากเดิมกำหนดไว้สิ้นสุดปี ค.ศ. 2037 (พ.ศ. 2580) แต่ทางสนพ.เสนอให้ทำไปถึงปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) ซึ่งสอดรับกับเป้าหมาย Net Zero 2050 ของประเทศ โดยแผนPDP ควรที่จะนำมาทบทวนได้ทุก 3-5 ปี หากเศรษฐกิจ ปัจจัยต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยี เปลี่ยนแปลง
สำหรับแผน PDP ฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างการจัดทำ ถือเป็นแผนจัดหาไฟฟ้าโดยภาครัฐ เป็นการซื้อไฟฟ้าจากระบบส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และจำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) แต่สิ่งที่ทางสนพ.มองเห็นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ใช้ไฟฟ้าออกจากระบบไฟฟ้า โดยหันไปใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ช่วงกลางวัน โดยไม่ซื้อไฟฟ้าจากระบบ แต่ก็ยังขอการสำรองไฟฟ้าจากระบบอยู่ ฉะนั้นการวางแผน PDP ฉบับใหม่จึงมีความยากและซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงมีสิ่งที่เรียกว่า IPS หรือการผลิตไฟฟ้าใช้เองอีกด้วย
ทั้งนี้ในสาระสำคัญของแผน PDP จะชี้ให้เห็นถึงการพัฒนาโรงไฟฟ้า การพัฒนาระบบส่ง โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งปัจจุบันเน้นรองรับพลังงานสีเขียวเข้าระบบมากขึ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนจากต่างประเทศ และสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือความต้องการใช้ไฟฟ้า (ดีมานด์) ใหม่ที่เกิดจากกลุ่ม Data Center หรือบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ที่มาลงทุนในไทยและเป็นการกระตุ้นจีดีพีประเทศให้เพิ่มมากขึ้น
โดยไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่จะเข้าสู่ระบบมากขึ้น ทำให้ สนพ.ในฐานะผู้วางแผนและเสนอนโยบาย เห็นว่าไทยควรมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactors -SMR ) ซึ่งในร่างแผน PDP 2024 ที่เคยจัดทำไว้ SMR ถูกวางไว้ช่วงปลายของร่างแผน PDP 2024 ยูนิตละ 300 เมกะวัตต์ จำนวน 2 ยูนิต รวม 600 เมกะวัตต์ ส่วนใน ร่างแผน PDP ฉบับใหม่จะขยับเวลาขึ้นมาเร็วกว่าเดิมหรือไม่ ปริมาณเท่าไหร่ คงต้องดูที่ความพร้อมเทคโนโลยี และราคา ที่สำคัญคือการจัดทำกฎหมายให้สอดคล้องกับ IAEA (ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ผอ.สนพ. มองว่า แผน PDP ใหม่ ต้องเคลียร์ให้ชัดเจน ในประเด็นต่างๆที่ยังเป็นข้อถกเถียงกัน ได้แก่
1.เรื่องสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าภาครัฐว่าจะต้องมีสัดส่วน 51% อยู่หรือไม่ภายใต้บริบทเปิดเสรี มี IPS เกิดขึ้นมามากมาย
2 เรื่องโรงไฟฟ้าที่มี PPA แล้ว เมื่อหมดอายุสัญญา จะยกเลิกเปิดรับซื้อไฟฟ้าใหม่ หรือจะขยาย ต่ออายุเพราะมีความมั่นคงโครงสร้างพื้นฐานดีอยู่แล้ว มีสายส่ง ท่อก๊าซฯ แล้ว 3 ไฟฟ้าพลังน้ำจาก สปป.ลาว ที่ใกล้จะหมดอายุ แต่มีราคาถูกไม่ถึง 2 บาทต่อหน่วย แต่ปัจจุบันถ้าเริ่มต้นเกือบ 3 บาทต่อหน่วย จะเลือกที่จะต่ออายุโครงการเดิม หรือจะเริ่มโครงการใหม่ที่ต้นทุนแพงกว่า
4 การเพิ่มขึ้นของ IPS แม้จะผลิตใช้เองแต่ก็ยังซึ้อไฟฟ้าจากระบบ ควรต้องเผื่อไว้หรือไม่ 20-30%
5 LOLE เกณฑ์ความมั่นคงไฟฟ้า ปัจจุบันยังมีการพูดถึงเรื่องเกณฑ์สำรองไฟฟ้า (Reserve Margin) อยู่ แม้เปลี่ยนมาใช้ “เกณฑ์ดัชนีความเชื่อถือที่ยอมให้ไฟฟ้าดับได้ หรือ LOLE 0.7 วันต่อปี หรือไม่เกิน 24 ชั่วโมงต่อปี” ควรปรับเกณฑ์มากขึ้นหรือลดลง เป็น 0.5 หรือ 1 วันต่อปีหรือไม่ ซึ่งการปรับเปลี่ยนเกณฑ์มีผลต่อต้นทุนราคา
6 การเปิดตลาดเสรีไฟฟ้า ในร่างแผน PDP 2024 เดิม เคยจะกำหนดเรื่องการเปิดเสรีไฟฟ้าไว้ โดยกำหนดเป็นเมกะวัตต์ มองไปข้างหน้า 5-7 ปี เผื่อต้องมีตลาดเรื่องพลังงานสะอาด เรื่อง IPP ที่หมดอายุและเข้ามาในตลาด ที่ต้องศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งในร่างแผน PDP ฉบับใหม่ อาจมองในด้านซัพพลาย 1,000-3,000เมกะวัตต์ เพื่อส่งสัญญาณทดสอบเรื่องการเปิดเสรีของประเทศ เพราะไทยหนีไม่พ้นการเปิดตลาดเสรี ในอนาคตโดยการจัดหาไฟฟ้าจากภาครัฐอาจจะเป็นแค่การ backup ในระบบเท่านั้น ส่วนการซื้อขายไฟฟ้าอาจเป็นเอกชนซื้อขายกันเองอย่างเสรี ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มต้นด้วย “โครงการนำร่องซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct PPA)”
7 การพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้า ในแผน PDP ฉบับใหม่ จะต้องเป็นค่าพยากรณ์ที่ได้รับการยอมรับจากสังคม เพราะการพยากรณ์ที่ไม่ถูกต้องนำไปสู่การวางซัพพลายไฟฟ้าที่ล้นจนเกินไป หรือไม่โปร่งใสได้









































