GULF จับมือ Singtel และ AIS ร่วมทุนเดินหน้าก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์​ 20​ เมกะวัตต์​ที่สมุทรปราการ

- Advertisment-

GULF, Singtel และ AIS เดินหน้าก่อสร้างโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดกว่า 20 เมกะวัตต์ใน จ.สมุทรปราการ ภายใต้การดำเนินการของบริษัท จีเอสเอ ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด (GSA) ซึ่ง​เป็น​บริษัทร่วมทุนของทั้ง 3 บริษัท โดยดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้จะเน้นใช้พลังงานสะอาด มีระบบการเก็บรักษาข้อมูลที่ปลอดภัยสูงสุด พร้อมตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าองค์กรและผู้ให้บริการคลาวด์ในไทยและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในภูมิภาค คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี พ.ศ. 2568

GSA เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท กัลฟ์ อินฟราสตรัคเจอร์ จำกัด (บริษัทในเครือของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน): GULF), บริษัท เอสที ไดนาโม ทีเอช พีทีอี. แอลทีดี. (บริษัทในเครือของ บริษัท สิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด: Singtel) และ บริษัท เอไอเอส ดีซี เวนเจอร์ จำกัด (บริษัทในเครือของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน): AIS) ในอัตราส่วน 40% 35% และ 25% ตามลำดับ นับเป็นการผนึกความแข็งแกร่งของทั้ง 3 บริษัท ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ โดย GULF มีประสบการณ์ในธุรกิจผลิตไฟฟ้าและธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และมีเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่กว้างขวาง ในขณะที่ Singtel มีความชำนาญในเทคโนโลยีสำหรับพัฒนาและบริหารดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกล มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในหลากหลายธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ระดับไฮเปอร์สเกล ส่วน AIS มีความเชี่ยวชาญด้านโครงข่ายโทรคมนาคมในประเทศ รวมถึงพัฒนาและดำเนินธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์หลายแห่งในประเทศไทย อีกทั้งมีประสบการณ์ในการให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรจำนวนมาก

นายรวิ กูรมะโรหิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอสเอ ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า การจัดพิธีในวันนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ และถือเป็นพิธีสิริมงคลสำหรับเริ่มการก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์อย่างเป็นทางการ โดยดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ใกล้กับกรุงเทพฯ มุ่งนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ ใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพที่เอื้อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างยั่งยืน ด้วยอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ ทางบริษัทจึงเห็นศักยภาพของตลาดความต้องการของกลุ่มลูกค้าและผู้ให้บริการคลาวด์ที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดรับกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล

- Advertisment -

ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้สร้างตามมาตรฐานระดับโลก อาทิ TIA-942 Certification Rated-3 รวมถึงมาตรฐานอาคารสีเขียว LEED Gold, การรับรองด้านความปลอดภัย (Threat and Vulnerability Assessment: TVRA) และ ISO 27001 เป็นต้น ทั้งนี้ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี พ.ศ. 2568

Advertisment

- Advertisment -.