กพช.ยกเลิกมติตั้งกรรมการจัดทำแผนPDP ฉบับใหม่ ภายใต้ กพช. โดยให้ตั้งเป็นคณะอนุกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ภายใต้ กบง. เหมือนเช่นที่เคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้ พร้อมเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงกำหนดวันเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) และแผนการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561–2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์พลังงานและความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศในปัจจุบัน
วันนี้ (27 ตุลาคม 2568) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแทนนายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมได้เห็นชอบ การทบทวนและปรับปรุงคณะกรรมการภายใต้ กพช. เพื่อให้การบริหารจัดการด้านพลังงานของประเทศมีความคล่องตัว บูรณาการ และสอดคล้องกับสถานการณ์พลังงานในปัจจุบัน โดยเห็นชอบให้ ยกเลิกคณะกรรมการภายใต้ กพช. รวม 3 คณะ ได้แก่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม (คำสั่ง กพช. ที่ 1/2568)คณะกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (คำสั่ง กพช. ที่ 2/2568) คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (คำสั่ง กพช. ที่ 3/2568)
ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ จัดตั้งคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ชุดใหม่ และเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศขึ้นใหม่ โดยให้แต่งตั้งเป็นคณะอนุกรรมการภายใต้ กบง. และมอบหมายให้ กบง. พิจารณาองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการ เพื่อดำเนินการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศให้มีความเหมาะสมต่อไป
รวมทั้งเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงกำหนดวันเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD)และแผนการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561–2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์พลังงานและความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศในปัจจุบัน โดยนายอรรถพลฯ เปิดเผยเพิ่มเติมว่าเนื่องจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ (ร่างแผน PDP2024) อยู่ระหว่างการจัดทำและยังไม่แล้วเสร็จ ที่ประชุมจึงเห็นควรให้ใช้แผน PDP2018 Rev.1 เป็นกรอบดำเนินงาน พร้อมปรับปรุงกำหนด SCOD และแผนการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าในช่วงปี 2568–2573 การปรับปรุงดังกล่าวเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยเน้นรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ป้องกันกำลังผลิตเกินจำเป็น และลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชนในระยะยาว โดยครอบคลุมโรงไฟฟ้า ดังต่อไปนี้ (1) โรงไฟฟ้า กฟผ. ที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจาก ครม. (2) โรงไฟฟ้า กฟผ. ที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. แล้วแต่ยังไม่ COD (3) โรงไฟฟ้าที่ยังไม่ระบุผู้พัฒนา (4) โรงไฟฟ้า IPP ที่มีสัญญาแล้วแต่ยังไม่ COD (5) การรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ และใช้ข้อมูลประกอบการจัดทำร่างแผน PDP ฉบับใหม่ต่อไป
















































