ไมเดียนำเสนอระบบปรับอากาศ HVAC เพื่อเป็นทางออกด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมสำหรับอาคารทั้งหลัง

- Advertisment-

โรงงานไมเดียประเทศไทยผลิตเครื่องปรับอากาศครบ 1 ล้านชุด ถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในการขยายธุรกิจในต่างประเทศของแบรนด์ พร้อมนำเสนอระบบปรับอากาศ HVAC เพื่อเป็นทางออกด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมสำหรับอาคารทั้งหลัง

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา แบรนด์เครื่องปรับอากาศ Midea (ไมเดีย) ได้จัดงานประชุมและเชิญแขกผู้มีเกียรติจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์  “Innovating for the Future” ซึ่งได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศจำนวน 1 ล้านชุดแรกที่ผลิตโดยโรงงานไมเดียประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและการพาณิชย์ประจำสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย, ประธานหอการค้าวิสาหกิจจีนประจำประเทศไทย ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IEAT) พร้อมด้วยประธานบริหารบริษัท ไมเดีย รีฟริจเจอเรชั่น อีควิปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด และตัวแทนแขกผู้มีเกียรติจากทั่วโลกของไมเดีย เข้าร่วมงานเพื่อเป็นเกียรติและสักขีพยานในช่วงเวลาสำคัญอันยิ่งใหญ่นี้

โรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะของไมเดียแห่งนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ทุ่มงบประมาณลงทุนกว่า 5.5 พันล้านบาท ซึ่งเริ่มผลิตสินค้าเต็มรูปแบบในเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยใช้ระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโรงงานจนสามารถผลิตสินค้าครบ 1 ล้านชุด โรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบนมาตรฐานโรงงานแห่งยุคอุตสาหกรรม 4.0 มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 2.08 แสนตารางเมตร และมีสายการผลิตโดยหุ่นยนต์อัตโนมัติเต็มรูปแบบถึง 6 สาย โดยส่วนใหญ่ส่งออกสินค้าให้กับประเทศในภูมิภาคอาเซียน ตะวันออกกลาง อเมริกาเหนือ และภูมิภาคอื่นๆ และพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศไทย

- Advertisment -

การเลือกจัดงานที่ประเทศไทยครั้งนี้ ไม่เพียงแต่แสดงให้ทั่วโลกได้เห็นว่าโรงงานไมเดียประเทศไทยนั้นอัจฉริยะมากกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม แต่ยังเป็นการแสดงศักยภาพความแข็งแกร่ง และสร้างความเชื่อมั่นของแบรนด์จีนในเวทีระดับสากล

ผลิตนวัตกรรมใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง เครื่องปรับอากาศไมเดียสร้างสถิติอันดับ 1 มากมายในตลาดโลก

ในปี 2565 ไมเดียมีกำลังการผลิตเครื่องปรับอากาศสูงถึง 60 ล้านชุด โดยในจำนวนนี้ถูกส่งออกมากกว่า 30 ล้านชุด ปัจจุบันการผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศของไมเดียก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก และไมเดียยังเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่มีส่วนแบ่งการตลาด และการส่งออกเครื่องปรับอากาศสูงสุดในประเทศจีน

ปัจจุบันไมเดียมีบริษัทในเครือกว่า 200 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา 31 แห่ง และฐานการผลิตหลัก 40 แห่งทั่วโลก โดยมีพนักงานมากกว่า 1.6 แสนคน และธุรกิจครอบคลุมกว่า 200 ประเทศ จากรายชื่อผู้นำด้านสิทธิบัตร 250 อันดับแรกของโลกในปี 2565 ที่เผยแพร่โดยฐานข้อมูลสิทธิบัตรเชิงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา IFI Claims  Midea Group (ไมเดีย กรุ๊ป)ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ 7 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในบรรดาบริษัทจากจีน ด้วยการถือครองสิทธิบัตรที่ถูกต้องกว่า 64,895 รายการ

การนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาเป็นแรงผลักดัน ทำให้เครื่องปรับอากาศไมเดียประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง จากสินค้าประเภทเดียวสู่สินค้าที่หลากหลาย จากแบรนด์เดียวสู่แบรนด์ที่มากมาย จากประเทศเดียวสู่ความสำเร็จระดับสากล และยังได้รับการจับตามองในตลาดทั่วโลกอีกด้วย

ไมเดียนำเสนอระบบปรับอากาศ HVAC เพื่อเป็นทางออกด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อมสำหรับอาคารทั้งหลัง

ในการประชุมระดับโลกครั้งนี้ ไมเดียได้ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นหลัก โดยได้นำเสนอการแก้ปัญหาด้านสภาพอากาศและพลังงานสำหรับอาคารทั้งหลังที่ยั่งยืนเป็นครั้งแรกของโลก โดยได้เปิดตัวเทคโนโลยีการแปลงความถี่โดยใช้ AI (ปัญญาประดิษฐ์) อัจฉริยะรุ่นใหม่ ซึ่งจะใช้ AI ผนวกกับการประมวลผลแบบคลาวด์ เพื่อให้สามารถควบคุมการแปลงความถี่ได้อย่างละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ประสบความสำเร็จในการประหยัดพลังงานขั้นสูงสุด ในขณะเดียวกัน เครื่องปรับอากาศไมเดียยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีปรับแรงดันไฟฟ้า ทำให้รับรู้การผกผันของกระแสไฟฟ้า ทั้งอัตรากำลังและกระแสไหลเวียนไฟฟ้าที่หลากหลาย สามารถเลือกพื้นที่การทำงานได้อย่างอิสระ และทำงานได้อย่างปกติแม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกลของประเทศไทยที่มีแรงดันไฟฟ้าไม่คงที่ หรือช่วงที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงสุดในฤดูร้อน

ไมเดียมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบที่แข็งแกร่งในประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง

จุดมุ่งหมายหลักของงานนี้ คือ การเฉลิมฉลองการผลิตเครื่องปรับอากาศไมเดียครบ 1 ล้านชุดแรกในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นเครื่องปรับอากาศ “Made in Thailand” ชุดแรกที่จะจัดจำหน่ายในตลาดไทยอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไมเดียประสบความสำเร็จอย่างครอบคลุมในไทย ทั้งด้านการวิจัยและพัฒนา กำลังการผลิต ไปจนถึงการจัดจำหน่าย ทั้งนี้ไมเดียยังคงเสาะหาเส้นทางการพัฒนาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพิ่มการลงทุนและสร้างสรรค์อย่างมืออาชีพ ปรับระบบบริการหลังการขายให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคในตลาดไทยได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

Advertisment

- Advertisment -.