โฆษก กกพ.เคลียร์ประเด็น กรณีแหล่งเอราวัณ มีปัญหาผลิตก๊าซหลังสิ้นสัมปทาน ปตท.ได้สิทธิ์​นำเข้า LNG ทดแทน

- Advertisment-

โฆษก กกพ.เคลียร์ประเด็น กรณีผู้รับสัญญาแหล่งก๊าซเอราวัณ ผลิตก๊าซได้ต่ำกว่าเงื่อนไขข้อตกลงที่ทำไว้กับรัฐ หลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน วันที่ 23 เม.ย.2565 ปตท.จะได้สิทธิ์เป็นผู้นำเข้าLNG ทดแทนปริมาณก๊าซส่วนที่หายไป​เพื่อไม่​ให้​เกิดปัญหา​ขาดแคลน​ก๊าซจนกระทบ​ความมั่นคง​พลังงาน​ของ​ประเทศ​

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ( สำนักงาน กกพ.) และในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยถึงกรณีการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งเอราวัณ หลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในวันที่23 เม.ย. 2565 ที่มีแนวโน้มสูงว่าผู้รับสัญญารายใหม่จะไม่สามารถดำเนินการผลิตก๊าซตามข้อตกลงที่ทำไว้กับรัฐได้ ในปริมาณที่ไม่ต่ำกว่า 800 ล้านลูกบาศก์​ฟุตต่อวันต่อเนื่องเป็นระยะเวลา10 ปี ว่า ปริมาณก๊าซที่ขาดหายไปในส่วนดังกล่าว ทาง ปตท. จะเป็นผู้มีสิทธิ์นำเข้าLNG มาทดแทน เนื่องจากเมื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์จะเห็นว่า แหล่งเอราวัณ ถือเป็นแหล่งก๊าซฯเดิมที่ประสบปัญหาการผลิตก๊าซฯ ดังนั้น ปตท.ในฐานะ Shipper รายเดิมที่รับผิดชอบดูแลอยู่ จะต้องทำหน้าที่จัดหาก๊าซฯมาให้เพียงพอสำหรับความต้องการใช้

ส่วนบทบาทของ Shipper รายใหม่ จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาก๊าซฯ ในส่วนของดีมานด์ใหม่ เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าใหม่หรือโรงไฟฟ้าที่ไม่ติดสัญญาก๊าซฯเดิมกับ ปตท. ตามแนวทางส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 ที่ผ่านความเห็นชอบจากทั้ง กบง.และ กพช.มาแล้ว

- Advertisment -

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center-ENC ) ​ รายงานว่า ก่อนหน้านี้ ทางสำนักงาน กกพ. ได้เร่งให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ รีบสรุปปริมาณก๊าซจากแหล่งเอราวัณ ว่าผู้รับสัญญารายใหม่ คือ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (ปตท.สผ. อีดี) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ จะผลิตก๊าซได้ตามสัญญา​หรือไม่ หรือจะมีปริมาณก๊าซที่ขาดหายไปจำนวนเท่าไหร่ เพื่อที่ ทาง กกพ.จะได้เตรียมการให้ ปตท.วางแผนจัดการนำเข้า LNG มาไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้ ในมติ กบง.เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2564 ที่เห็นชอบปริมาณการนำเข้า LNG ปี 2564 – 2566 เพื่อรองรับแนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 ปริมาณรวม 5.24 ล้านตัน แบ่งเป็นปี 2564 ปริมาณ 0.48 ล้านตัน ปี 2565 ปริมาณ 1.74 ล้านตัน และ ปี 2566 ปริมาณ 3.02 ล้านตัน นั้น ยังไม่ได้คิดรวมกรณีการผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณที่จะไม่เป็นไปตามสัญญา

ทั้งนี้หากเป็นไปตามกระแสข่าวที่ระบุว่า หลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน การผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณจะต่ำกว่าสัญญาประมาณ 200-300 ล้านลูกบาศก์​ฟุตต่อวันนั้น มีการประเมินกันว่าอาจจะต้องมีการนำเข้าLNG มาทดแทนประมาณ 1.5 -​2 ล้านตันต่อปี

Advertisment

- Advertisment -.