เขื่อน กฟผ. ตรวจเข้มการบำรุงรักษา การันตีความปลอดภัย พร้อมรับปริมาณน้ำเต็มความจุ

24
- Advertisment-

แม้จะอยู่ในช่วงปลายฤดูฝน แต่การเข้ามาของพายุถึง 7 ลูก ซึ่งล่าสุดคือพายุคัลแมกี ทำให้ปีนี้มีปริมาณฝนมากกว่าค่าเฉลี่ย

เขื่อนจึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการน้ำของประเทศ ทำหน้าที่กักเก็บและชะลอน้ำให้กับพื้นที่ท้ายน้ำ ส่งผลให้เขื่อนภูมิพล จ.ตาก และเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำเต็มความจุ หลายคนจึงตั้งคำถามถึงความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อน

ความแข็งแรงและปลอดภัยของเขื่อนถือเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการตรวจสอบและดูแลอย่างเข้มงวดและสม่ำเสมอ ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คือผู้รับหน้าที่นี้โดยมีเขื่อนในการดูแลถึง 14 เขื่อนทั่วประเทศไทย มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า ผู้รักษาความมั่นคงปลอดภัยเขื่อน คอยเฝ้าระวัง ตรวจวัด ติดตามและบำรุงรักษาเขื่อน เป็นประจำทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน 

- Advertisment -

กระบวนการตรวจสอบเขื่อนของ กฟผ. เริ่มจากการตรวจสอบด้วยสายตา โดยผู้รักษาความมั่นคงปลอดภัยเขื่อนจะเดินตรวจบริเวณแนวสันเขื่อนเพื่อตรวจสอบการทรุดตัวและสิ่งผิดปกติ จากนั้นจะใช้ ระบบ DS-RMS (Dam Safety Remote Monitoring System) เพื่อตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อน และเก็บข้อมูลมาแสดงผลในรูปแบบกราฟ โดยจะสรุปสถานะความปลอดภัยของเขื่อนในสภาวะปกติ สภาวะแผ่นดินไหว และสภาวะน้ำหลาก แบ่งความปลอดภัยเขื่อนเป็น 3 สถานะ คือ ปกติ แจ้งเตือน และเฝ้าระวัง 

จากนั้นผู้รักษาความปลอดภัยเขื่อนจะเดินลงบันไดที่มีความสูงราวตึก 15 ชั้น เพื่อไปยังอุโมงค์ของเขื่อน ซึ่งเป็นพื้นที่อับอากาศ มีความกว้างของรากฐานเกือบ 600 เมตร เพื่อตรวจสอบสภาพคอนกรีต และใช้เครื่องมือต่าง ๆ ตรวจวัดค่าที่เกี่ยวข้องให้อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอดเวลาไม่ใช่แค่เพียงบนผืนดินแต่ยังมีการตรวจสอบใต้น้ำด้วย ทีมนักประดาน้ำ ของ กฟผ. ที่เชี่ยวชาญสูงในการปฏิบัติงานภายใต้การทำงานที่ความลึกเกือบ 60 เมตร ผืนน้ำที่มืดมิดและมีแรงดันอากาศสูง นักประดาน้ำทุกคนจึงต้องผ่านการอบรมอย่างเข้มข้นทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อความพร้อมสำหรับภารกิจบำรุงรักษาอุปกรณ์ใต้น้ำ เช่น การเชื่อม การตัดต่ออุปกรณ์ เป็นต้น อีกทั้งต้องมีการอบรมและทดสอบนักประดาน้ำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยปัจจุบันมีทีมนักประดาน้ำเกือบ 50 คน หากจุดใดที่นักประดาน้ำไม่สามารถปฏิบัติการได้ กฟผ. ก็จะใช้ยานสำรวจใต้น้ำ (Remotely Operated Vehicle : ROV) เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ผล และวางแผนบำรุงรักษาต่อไป

ภารกิจดูแลและตรวจสอบเขื่อนเป็นภารกิจที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อความมั่นคงปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนทุกคน

Advertisment