ฟันธงโซลาร์ประชาชนปีแรกไม่ถึงเป้า ผู้ประกอบการขอรัฐบาลใหม่ขยายเวลาซื้อไฟเป็น25ปี

- Advertisment-

ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรขอรัฐบาลใหม่เดินหน้าโครงการโซลาร์ภาคประชาชนต่อเนื่อง พร้อมขยายระยะเวลารับซื้อไฟฟ้าจาก10ปี เป็นตลอดอายุแผงโซลาร์ 25 ปี  เพื่อให้คุ้มค่าการติดตั้ง  ฟันธงปีแรกประชาชนร่วมโครงการไม่ถึงเป้าหมายรัฐ 100 เมกะวัตต์ เหตุติดตั้งเฉลี่ยเพียง 2-3 กิโลวัตต์ต่อหลัง และประชาชนยังขาดความเข้าใจถึงข้อดีที่จะเกิดขึ้น

น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยถึงโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา(โซลาร์รูฟท็อป)ภาคประชาชน ที่ภาครัฐเปิดรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากประชาชนปีละ 100 เมกะวัตต์ เป็นเวลา 10 ปี ในอัตราค่าไฟ1.68 บาทต่อหน่วยว่า ต้องการให้รัฐบาลเพิ่มระยะเวลาการรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจาก 10 ปี เป็น 25 ปี หรือตลอดอายุแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อให้คุ้มค่ากับการลงทุนติดตั้งเนื่องจากอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่รัฐกำหนดให้นั้นต่ำเพียง 1.68 บาทต่อหน่วยเท่านั้น ในขณะที่ค่าติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปปัจจุบันอยู่ที่ 4-5 หมื่นบาทต่อ 1 กิโลวัตต์

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ เห็นด้วยกับโครงการโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชน เพราะแต่ละครัวเรือนที่ติดตั้งจะประหยัดเงินค่าไฟฟ้าได้ 1-3 แสนบาท ตลอดอายุแผงโซลาร์(25 ปี) สำหรับกรณีติดตั้งเพื่อใช้เองและไม่ขายไฟฟ้าเข้าระบบ   ส่วนกรณีที่ติดตั้งเพื่อใช้เองและขายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าระบบในโครงการโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 1-3 หมื่นบาท ตลอดเวลา 10 ปี   ดังนั้นการติดตั้งเพื่อใช้เองจึงมีความคุ้มค่าสูงกว่า

- Advertisment -

ทั้งนี้คาดว่าในปีแรกของโครงการ(ปี2562) ประชาชนอาจเข้าร่วมโครงการไม่ถึงเป้าที่รัฐกำหนด 100 เมกะวัตต์ เนื่องจากปริมาณการติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปแต่ละหลังไม่มาก โดยบ้านอยู่อาศัยเฉลี่ยติดตั้งเพียง 2-3 กิโลวัตต์ต่อหลังเท่านั้น ประกอบกับประชาชนยังไม่เข้าใจประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นระยะยาว ดังนั้นหากโครงการดำเนินไปอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้าปีละ 100 เมกะวัตต์ เป็นเวลา 10 ปี จะช่วยให้ประชาชนเกิดการรับรู้และสนใจมากขึ้นในอนาคต ซึ่งสิ่งสำคัญคือรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศจะต้องยึดมั่นนโยบายโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนไว้ หากเปลี่ยนแปลงบ่อยจะส่งผลให้ภาคเอกชนและอุตสาหกรรมโซลาร์ไม่มั่นใจในการลงทุนและส่งผลให้โครงการประสบผลสำเร็จยาก

น.ส.เกษรา กล่าวว่า ในส่วนของบริษัทได้เตรียมความพร้อมยื่นขอสิทธิ์เข้าร่วมโครงการโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนในปี2562นี้ โดยให้ลูกบ้านที่ซื้อบ้านจัดสรรในโครงการของบริษัทฯ ใน 6 โครงการ  ประกอบด้วย 1) โครงการ เสนาพาร์คแกรนด์ รามอินทรา 2)โครงการเสนาพาร์ควิลล์รามอินทรา- วงแหวน 3)โครงการเสนาวิลล์ บรมราชชนนี สาย5  4)โครงการเสนาแกรนด์ โฮม รังสิต ติวานนท์ 5)โครงการเสนาช๊อปเฮ้าส์ พหลโยธิน คูคต และ6)โครงการเสนาช็อปเฮ้าส์ บางแค เฟส1 และเฟส2เข้าร่วมรวม 170 หลัง คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 340 กิโลวัตต์

Advertisment