กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ แบ่งงาน“ศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์”รองอธิบดีใหม่ เร่งเอราวัณกลับมาผลิตก๊าซฯให้ได้ตามสัญญา

นายศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ โฆษกกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
- Advertisment-

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ แบ่งงาน “ศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์” รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติคนใหม่ ดูแลด้านการสำรวจปิโตรเลียมและด้านบริหารสัญญาปิโตรเลียม โดยเฉพาะแหล่งเอราวัณ ให้กลับมาผลิตก๊าซฯ ตามสัญญา 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันให้ได้ และช่วยกลั่นกรองข้อเสนอประมูลสำรวจปิโตรเลียมรอบ 24   ยอมรับเข้าบริหารงานช่วงวิกฤติพลังงานเป็นความท้าทาย ยืนยันพร้อมช่วยแบ่งเบาภาระอธิบดีฯ เพื่อให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติพลังงานให้ได้  

นายศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยถึงภาระหน้าที่ภายหลังเข้ารับตำแหน่งใหม่เป็นรองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมาว่า ประเทศกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติพลังงาน จากความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นแต่กำลังการผลิตลดลง รวมทั้ง ราคาก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) นำเข้ามีราคาแพง ประกอบกับเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านผู้ผลิตปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณ ส่งผลให้กำลังการผลิตก๊าซฯ ในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้  

การเข้ามารับตำแหน่งรองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติในช่วงนี้ถือเป็นงานท้าทายที่ต้องมองภาพรวมการบริหารงานมากขึ้น เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติพลังงานในช่วงนี้ไปให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมากรมฯ ได้เร่งแก้ปัญหากันอย่างเต็มที่มาโดยตลอด และพยายามพึ่งพาพลังงานในประเทศให้ได้มากขึ้น จึงมีการเปิดประมูลสำรวจปิโตรเลียมรอบล่าสุด รอบที่ 24  ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเปิดให้ยื่นข้อเสนอการประมูล (วันที่ 16 ก.ย. 2565 จะเป็นวันสุดท้ายในการเปิดรับข้อเสนอการประมูล)

- Advertisment -

ทั้งนี้ในฐานะรองอธิบดีฯ ก็จะมีหน้าที่เข้าไปช่วยในเรื่องการกลั่นกรองข้อเสนอการประมูล เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการประมูล และเกิดความโปร่งใสมากที่สุด ส่วนประเด็นการผลิตก๊าซฯ ในแหล่งเอราวัณนั้น ที่ผ่านมาทีมงานกรมฯ ได้พยายามกันอย่างเต็มที่ในการเร่งให้กำลังการผลิตกลับมาสู่ระดับ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต(PSC) แต่เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านผู้ผลิตปิโตรเลียมหลังหมดอายุสัมปทาน ทำให้การเข้าพื้นที่ผลิตล่าช้า และการผลิตก๊าซฯ ยังไม่ถึง 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่ขณะนี้ผู้ผลิตกำลังเร่งเจาะหลุมผลิตเพิ่ม ซึ่งคาดว่าปลายปี 2565 นี้จะเห็นข้อมูลของปริมาณก๊าซฯที่ชัดเจน ซึ่งกรมฯ จะสรุปภาพรวมอีกครั้ง เพื่อประเมินว่าก๊าซฯจะกลับมาครบในปีใด และระหว่างนั้นจะต้องวางแผนเพื่อจัดหาก๊าซฯให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ประกาศผลการแต่งตั้งตำแหน่งรองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ได้ลงนามแต่งตั้งให้ นายศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ ผู้อำนวยการกองจัดการเชื้อเพลิงธรรมชาติ เข้าดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน แทนตำแหน่งที่ว่างลง นับตั้งแต่นายสมบูรณ์ วัชระชัยสุรพล รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา  

โดยนายศุภลักษณ์ เข้าดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ มีรองอธิบดีครบ 2 ตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายศุภลักษณ์ จะเข้ามาดูแลในส่วนของกองบริหารสัญญา, กองจัดการเชื้อเพลิงธรรมชาติ, กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร และกองความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมเชื้อเพลิงธรรมชาติ

ดังนั้นหน้าที่หลักคือการดูแลงานด้านการสำรวจปิโตรเลียมและด้านบริหารสัญญาปิโตรเลียม เช่น สัญญาปิโตรเลียมของแหล่งเอราวัณ และบงกช เป็นต้น ซึ่งจะต้องเข้ามากำกับดูแลให้การผลิตปิโตรเลียมเป็นไปตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต(PSC)  และช่วยดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รอบที่ 24 บริเวณอ่าวไทย 3 แปลง ให้เป็นไปตามสัญญา PSC ด้วย

Advertisment

- Advertisment -.