ปตท.ลุยธุรกิจผลิตไฟฟ้าตั้งเป้า​16,000​ เมกะวัตต์​ใน10​ ปี

- Advertisment-

ปตท.ลุยธุรกิจไฟฟ้ารองรับทิศทางวิถีชีวิตใหม่ของผู้บริโภค​ที่เข้าสู่ระบบธุรกรรมเงินดิจิทัล​ หรือคริปโทเคอร์เรนซี​ และการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า​แทนน้ำมันมากขึ้น​ ​โดยตั้งเป้า​อีก 10​ ปีข้างหน้า​ หรือภายในปี​ 2573 จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าให้ได้ 16,000 เมกะวัตต์ ซึ่งมาจากการผลิตไฟฟ้าที่เป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล 8,000 เมกะวัตต์ และพลังงานทดแทนอีก 8,000 เมกะวัตต์

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยในงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนวันนี้​ (23 ก.พ.2564​)​ ว่า ปตท.ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ใช้ฟอสซิลเป็นเชื้อเพลิงให้ได้ 8 กิกะวัตต์ หรือเท่ากับ 8,000 เมกะวัตต์ (1 กิกะวัตต์ เท่ากับ 1,000 เมกะวัตต์) และขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนให้ได้ อีก 8 กิกะวัตต์ รวม 16,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573

โดยมองว่า​ทิศทางการใช้พลังงานในอนาคตจะมุ่งไปสู่ไฟฟ้า​มากกว่าน้ำมัน​ซึ่งวิถีชีวิตใหม่ที่หันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น​รวมทั้งการทำธุรกรรมการเงินแบบดิจิทัล​หรือ​ คริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) ที่จะเพิ่มความต้องการใช้ไฟฟ้าให้เพิ่มขึ้นมาก โดยบางเคอร์เรนซีใช้ไฟฟ้ารวมกันมากกว่าการใช้ไฟฟ้าของบางประเทศเสียอีก

- Advertisment -

ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว ปตท.ได้เข้าไปซื้อหุ้น 50% ของบริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล เพาเวอร์ จำกัด (GRP) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการลงทุนธุรกิจพลังงานในต่างประเทศ

Advertisment