- Advertisment-

ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบโลกสัปดาห์นี้ (18-22 ต.ค. 64)  มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง หลังจากเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปิดตลาด ICE Brent เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ส่วน NYMEX WTI สูงสุดในรอบ 7 ปี

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 2-3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยราคาปิดตลาด ICE Brent ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ส่วน NYMEX WTI สูงสุดในรอบ 7 ปี และมีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดต่อไปอีก  (ดังรูปด้านล่าง)

- Advertisment -

ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ของ International Energy Agency (IEA) ว่า อุปทานน้ำมันดิบโลกใน ไตรมาส 4 ปี 2564 ต่ำกว่าความต้องการใช้ทั่วโลกอยู่ 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจาก อุปสงค์น้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯ ประกาศผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเข้าประเทศ (Travel Restriction) สำหรับผู้เดินทางชาวต่างชาติกว่า 30 ประเทศ ที่ได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ครบถ้วน เริ่มตั้งแต่ 8 พ.ย. 64 รวมถึงอุปสงค์พลังงานเพื่อใช้ทำความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวนี้ก็เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ OPEC+ ยังไม่เพิ่มการผลิตมากขึ้นกว่าข้อตกลงเดิม

ด้านเทคนิค สัปดาห์นี้ราคา ICE Brent มีแนวโน้มอยู่ในกรอบ 85 – 89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และมีโอกาสที่ ICE Brent จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ คือ 87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก คือ ซาอุดีอาระเบียกล่าวในการประชุม Russian Energy Week ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงมอสโก ระหว่างวันที่ 13 – 15 ต.ค. 64 ว่า กลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) จะยังไม่เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบมากกว่ากรอบที่กำหนดไว้ที่เดือนละ 400,000 บาร์เรลต่อวัน  ส่วน ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ ได้แก่ กรณีที่รัฐบาลจีนอนุมัติโควตาการนำเข้าน้ำมันดิบให้บริษัทผู้ประกอบการโรงกลั่นเอกชน ครั้งที่ 4/64 อยู่ที่ 14.89 ล้านตัน รวมเป็นโควตาในปี 2564 ที่ระดับ 177.14  ล้านตัน ต่ำกว่าโควตาปี 2563 ที่ 184.55 ล้านตัน และลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ทางการจีนเริ่มอนุมัติโควตาการนำเข้าน้ำมันดิบให้โรงกลั่นเอกชนในปี 2558

Advertisment

- Advertisment -.