ปตท. คาดราคาน้ำมันโลกสัปดาห์นี้ยังขึ้นต่อเนื่อง หลังสหรัฐฯ ยุโรป และจีน ขยายวงฉีดวัคซีนโควิด-19 กระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว

- Advertisment-

ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสัปดาห์นี้ (14-18 มิ.ย. 2564) มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของความต้องการใช้ในสหรัฐฯ ยุโรป และจีน หลังสามารถกระจายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้วงกว้างขึ้น

โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เวสท์เท็กซัสฯ และดูไบ รวมถึงราคาน้ำมันสำเร็จรูปเบนซินและดีเซล ต่างปรับสูงขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (7- 11 มิ.ย. 64)  โดยมีปัจจัยต่างๆ ดังนี้

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

- Advertisment -
  • รายงานฉบับเดือน มิ.ย. 64 ของ Energy Information Administration (EIA) คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2564 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 97.67 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในปี 2565 จะเพิ่มขึ้น 3.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 101.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน
  • ธนาคารโลก (World Bank) ปรับประมาณการอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของโลก ปี 2564 อยู่ที่ 5.6%
    ต่อปี สูงกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 4.1% ต่อปี โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ
    ในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ และจีน
  • นักลงทุนเพิ่มการลงทุนในตลาดซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า ICE รายงานสถานการณ์การลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ Brent ในตลาดนิวยอร์ค และตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 8 มิ.ย. 64 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานะถือครองสุทธิ (Net Long Position) เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 23,277 สัญญา มาอยู่ที่ 265,745 สัญญา

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

  • Baker Huges รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (Rig Count) ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 มิ.ย. 64 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 6 แท่น อยู่ที่ 365 แท่น สูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 63

แนวโน้มราคาน้ำมัน

         ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้วิเคราะห์ทางเทคนิคราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 71 – 74 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐฯ  ยุโรป และจีน จากการกระจายวัคซีน COVID-19 ขยายวงกว้างขึ้น ประกอบกับ OPEC+ มีมติคงปริมาณการลดกำลังผลิต ในเดือน ก.ค. 64 ที่ระดับ 5.759 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจะตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการลดกำลังผลิตของเดือน ส.ค. 64 เป็นต้นไป ในการประชุมวันที่ 1 ก.ค. 64 อย่างไรก็ตามการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์ (Joint Comprehensive Plan of Action – JCPOA) ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ อาจทำให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันสู่ตลาดได้มากขึ้น หากสหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร 

       ทั้งนี้ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบ Brent มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ภายในเดือน ส.ค. 64  เนื่องจากการกระจายวัคซีนขยายวงกว้างขึ้นช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเพิ่มความต้องการ
ใช้น้ำมันจากการเดินทางในสหรัฐฯ และยุโรปที่สูงขึ้น

Advertisment

- Advertisment -.