บ้านปู เน็กซ์ เดินหน้าขยายธุรกิจระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Utility-scale Battery Energy Storage System: BESS) ระดับสาธารณูปโภค ในญี่ปุ่นตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตโฟลิโอมากกว่า 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงภายในปี 2573
โดยนับจากโครงการโตโนะขนาด 58 เมกะวัตต์ชั่วโมง ที่เป็นโครงการนำร่องของบริษัทซึ่งเชื่อมต่อกับกริดของ Tohoku EPCO และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว บริษัทฯ กำลังพัฒนาโครงการเพิ่มในญี่ปุ่น ได้แก่ โครงการไอสึ (Aizu) ขนาด 104 เมกะวัตต์ชั่วโมงในจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) โครงการทสึโนะ (Tsuno) ขนาด 104 เมกะวัตต์ชั่วโมงในจังหวัดมิยาซากิ (Miyazaki) และโครงการคามิกุมิ-โตเกียว (Kamigumi-Tokyo) ขนาด 8 เมกะวัตต์ชั่วโมงภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท คามิกุมิ จำกัด (Kamigumi Co., Ltd.) ซึ่งเป็นโครงการ BESS แห่งแรกของบ้านปู เน็กซ์ ที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government)
สำหรับโครงการโตโนะ ไอสึ และทสึโนะได้รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐของญี่ปุ่นผ่านกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (Ministry of Economy, Trade and Industry: METI) ทั้งนี้ สามโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างมีกำหนดเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2571 นอกจากนี้ บ้านปู เน็กซ์ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและวางแผนจะดำเนินการอีกหลายโครงการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตที่วางไว้

นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “หนึ่งในกลยุทธ์ของบ้านปู เน็กซ์ คือการเข้าสู่ตลาด BESS ระดับสาธารณูปโภค ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาธุรกิจของเรา โดยเราสร้างความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดด้วยการเพิ่มมูลค่าในธุรกิจแบตเตอรี่ที่ครอบคลุม และการเลือกทำตลาดในประเทศที่มีศักยภาพสูง สำหรับตลาด BESS ของประเทศญี่ปุ่นมีมูลค่าประมาณ 593.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 32.1 (CAGR) ภายในปี 2573 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลายประการ ทั้งนโยบายที่แข็งแกร่งของภาครัฐ เป้าหมายการลดคาร์บอนที่ชัดเจน และความต้องการระบบกักเก็บพลังงานที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจ สะท้อนถึงความสำคัญของ BESS ต่อการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศและความมั่นคงทางพลังงานของญี่ปุ่น ด้วยปัจจัยเหล่านี้ยืนยันได้ว่าญี่ปุ่นเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ที่มีความต้องการระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บ้านปู เน็กซ์ ติดตั้ง BESS โดยใช้เทคโนโลยี AI ควบคุมการทำงานของระบบ ซึ่งมีจุดเด่นที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากตลาดซื้อขายพลังงานผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ยังรักษาเสถียรภาพของกริด ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในโมเดลการสร้างรายได้หลายทางจากส่วนต่างของราคาในตลาดพลังงาน อาทิ การซื้อขายตามส่วนต่างราคา ตลาดสมดุล และตลาดกำลังการผลิต อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจ BESS ของเราคือการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญและมีบริการโซลูชั่นพลังงานครบวงจรช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับตำแหน่งทางการตลาดของเรา”

บ้านปู เน็กซ์ ยังคงศึกษาความเป็นไปได้ของการเข้าไปลงทุนในประเทศอื่นๆ แถบเอเชียแปซิฟิกที่มีศักยภาพการเติบโตสูง การขยายธุรกิจ BESS ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศพลังงานหมุนเวียนของบริษัทฯ พร้อมทั้งเติมเต็มห่วงโซ่คุณค่า และตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานครบวงจรชั้นนำในตลาดพลังงานหมุนเวียนทั่วทั้งภูมิภาค
“ในอนาคต บ้านปู เน็กซ์ จะใช้ความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมโซลูชั่น Net Zero เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ BESS และโซลูชั่นพลังงานครบวงจรของเรา ควบคู่ไปกับการปรับทิศทางธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มของเทคโนโลยีพลังงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านภูมิภาคสู่อนาคตคาร์บอนต่ำ” นายสมิทธิพร กล่าวสรุป