บี.กริม เพาเวอร์ เผยความคืบหน้าลงทุนใน reNIKOLA Holdings Sdn. Bhd. ผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์รายใหญ่ของมาเลเซีย ถือหุ้นแล้ว 45%

- Advertisment-

บี.กริม เพาเวอร์ เผยความคืบหน้าซื้อหุ้นบริษัท reNIKOLA Holdings Sdn. Bhd. ผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์รายใหญ่ในมาเลเซีย พร้อมบันทึกรายได้จาก 3 โครงการ รวม 88 เมกะวัตต์ ก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเข้าลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานทดแทนในประเทศมาเลเซีย หลังจากเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 B.Grimm Power (Malaysia) Sdn. Bhd. (B.Grimm Malaysia) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ บี.กริม เพาเวอร์ ถือหุ้น 100% ได้ทำสัญญาจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ reNIKOLA Holdings Sdn. Bhd. (reNIKOLA) ผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศมาเลเซีย คิดเป็นสัดส่วน 45% ภายใต้มูลค่าการซื้อขายรวม 367 ล้านมาเลเซียริงกิต

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 B.Grimm Malaysia ได้ชำระค่าหุ้นดังกล่าวในส่วนแรก (Initial Subscription) ตามสัญญาจองซื้อหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งส่งผลให้ B.Grimm Malaysia ถือหุ้นทางอ้อมใน SBU Power Sdn. Bhd. (SBU Power), RE Gebeng Sdn. Bhd. (RE Gebeng) และ Halpro Engineering Sdn. Bhd. (Halpro Engineering) ในสัดส่วน 45%

- Advertisment -

SBU Power, RE Gebeng และ Halpro Engineering เป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 88 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 21 ปี กับ Tenaga Nasional Berhad (บริษัทสาธารณูปโภคไฟฟ้าแห่งเดียวในประเทศมาเลเซีย)

กลุ่ม reNIKOLA เป็นกลุ่มธุรกิจด้านพลังงานทดแทนที่มีการเติบโตอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบัน reNIKOLA มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 3 โครงการ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 88 เมกะวัตต์  และมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่อยู่ระหว่างการเจรจาทำสัญญาซื้อหุ้นอีก 90 เมกะวัตต์ (กำลังการผลิตติดตั้ง) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ reNIKOLA ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งสูงสุดที่ 375 เมกะวัตต์ ที่อยู่ภายใต้การศึกษาและเจรจา

“การเข้าลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศมาเลเซีย ส่งผลดีต่อภาพรวมการลงทุนของ บี.กริม เพาเวอร์ รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานที่มุ่งสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ.2050 (ปี พ.ศ. 2593)  ตามวิสัยทัศน์ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่มุ่งสร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี (Empowering the World Compassionately) โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคม พร้อมเติบโตเคียงคู่ไปกับประเทศไทย”  ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวทิ้งท้าย

Advertisment