ทูตเยอรมนีชื่นชมความสำเร็จ​ โครงการโซลาร์ลอยน้ำเขื่อนสิรินธร​ ของ​ กฟผ.

- Advertisment-

เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย Mr. Georg Schmidt พร้อมด้วย หอการค้าเยอรมันไทย (GTCC) องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) และคณะผู้บริหาร บริษัท ซีเมนส์ จำกัด ชื่นชมความสำเร็จโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร (Hydro-floating Solar Hybrid) กำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ จ.อุบลราชธานี หลังนำคณะ หอการค้าเยอรมันไทย (GTCC) องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) และคณะผู้บริหาร บริษัท ซีเมนส์ จำกัด​ เยี่ยมชมโครงการ​ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566​ ที่ผ่านมาโดยมีนายฉัตรชัย มาวงศ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการวิศวกรรมและก่อสร้างโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ

โดย​ Mr.Georg Schmidt (มิสเตอร์ เกออร์ก ชมิดท์) เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย กล่าวชื่นชมโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธรที่ ช่วยผลิตพลังงานสะอาดที่มีเสถียรภาพ และเป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ยังได้แสดงความประทับใจในการนำนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์และพลังน้ำมาผสมผสานกันผลิตไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพได้ตลอดเวลา ว่า “เทคโนโลยีของบริษัทเยอรมันมีส่วนช่วยให้เรานำพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทยมาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยประเทศเยอรมนีพัฒนาความร่วมมือทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและเทคโนโลยีกับประเทศไทยมาเป็นเวลาหลายปี เราร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาและความยั่งยืน โครงการดังกล่าวนับเป็นความร่วมมือล่าสุดสำหรับความสัมพันธ์ด้านพลังงานของเรา”

ด้านนายฉัตรชัย มาวงศ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการวิศวกรรมและก่อสร้างโรงไฟฟ้า กฟผ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กฟผ. ได้นำโซลาร์เซลล์ลอยน้ำมาผลิตไฟฟ้าร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร เพื่อลดข้อจำกัดของพลังงานหมุนเวียน ช่วยให้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมีความมั่นคงมากขึ้น พร้อมกับขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ตามนโยบายรัฐบาล นอกจากนั้น กฟผ. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน โดยผลักดันโรงไฟฟ้าให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานแห่งใหม่ของ จ.อุบลราชธานี ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนจากการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดในภาพรวมอีกด้วย ซึ่งหลังจากเปิดให้เยี่ยมชมโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมแล้วกว่า 420,000 ราย สร้างรายได้ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่าง ๆ รวมมากกว่า 8.3 ล้านบาท

- Advertisment -

Dr.Thai-Lai Pham (ดอกเตอร์ ไท ไล ฟาม) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเมนส์ อาเซียน กล่าวแสดงความยินดีที่โครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดประสบผลสำเร็จ นับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งบริษัท ซีเมนส์ จำกัด รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำคัญนี้ ด้วยการนำเทคโนโลยี ทั้ง “Microgrid Control” “Photovoltaic Plant Control” และ “Distributed Energy Optimization (DEOP)” มาช่วยจัดการพลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังน้ำจากเขื่อน เพื่อเพิ่มเสถียรภาพ ประสิทธิภาพและความสมดุลให้กับระบบไฟฟ้า

ทั้งนี้ จากความสำเร็จของโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร กฟผ. จึงได้เตรียมพัฒนาโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในพื้นที่เขื่อนของ กฟผ. ทั้ง 9 เขื่อนทั่วประเทศ รวม 16 โครงการอย่างต่อเนื่อง รวมกำลังผลิตทั้งหมด 2,725 เมกะวัตต์ โดยโครงการถัดไปคือโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ขนาดกำลังผลิต 24 เมกะวัตต์ มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ปลายปี 2566 โดยจะต่อยอดเพิ่มเสถียรภาพของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System – BESS) เข้าไปในระบบผลิตไฟฟ้าแบบไฮบริด ซึ่งจะส่งผลให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น

Advertisment

- Advertisment -.