ครม.ไฟเขียวช่วยค่าน้ำมันมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 250 บาทต่อคันต่อเดือนรวม 3 เดือน

- Advertisment-

มติคณะรัฐมนตรีไฟเขียวช่วยค่าน้ำมันมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 1.57 แสนคัน 250 บาทต่อคันต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน เริ่ม พ.ค.-ก.ค.65 พร้อมให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 22 สตางค์ต่อหน่วย กลุ่มที่ใช้ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน (เริ่ม พ.ค.-ส.ค.65)​ โดยรวมอยู่ในมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานแพงกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News​ Center​ -​ENC )​รายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​(ครม.)​วันนี้ (29 มี.ค.2565)​ เห็นชอบมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานแพงจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยมาตรการที่เห็นชอบนั้นส่วนใหญ่สอดคล้องกับที่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์​มีเชาว์ รองนายกรัฐมตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 24 มี.ค.65 ที่ผ่านมา โดยมาตรการที่น่าสนใจคือ การช่วยผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 1.57แสนราย โดยจะได้รับส่วนลดค่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 5 บาทต่อลิตร จำนวน 50 ลิตรต่อเดือน รวมเป็นเงิน 250 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน (พ.ค.-ก.ค.65) กรอบวงเงินเบื้องต้น 120 ล้านบาทโดยใช้งบกลางในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของปีงบประมาณ 65 มาช่วยดูแล

นอกจากนี้ยังจะให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าผันแปร คือค่าเอฟที 22 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เป็นเวลา 4 เดือน (งวดเอฟทีเดือน พ.ค.-ส.ค.65 ) โดยมีกรอบวงเงินเบื้องต้น 2,000 -​3,500 ล้านบาท จากงบกลางของปีงบประมาณ 65 เช่นเดียวกัน

- Advertisment -

สำหรับมาตรการช่วยเหลือผลกระทบอื่นๆ ได้แก่ การตรึงราคาขายปลีกดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย.65 จากนั้นรัฐบาลจะเข้าไปชดเชยส่วนต่างดีเซลกรณีที่เกินจาก 30 บาทต่อลิตรครึ่งหนึ่ง เริ่ม 1 พ.ค.-มิ.ย 65 ซึ่งการชดเชยที่ 8 บาทต่อลิตรจะมีกรอบวงเงินเบื้องต้น 33,140 ล้านบาท ใช้ผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

การทยอย ปรับขึ้นราคา LPG เดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม (15 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม) ระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค.-มิ.ย. 2565 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2565 นี้ ซึ่งจะทำให้ราคาจำหน่าย LPG เดือน เม.ย.อยู่ที่ 333 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม, เดือน พ.ค. อยู่ที่ 348 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม และเดือน มิ.ย. 2565 อยู่ที่ 363 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จากปัจจุบันยังตรึงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม
แม้จะปรับขึ้นราคาดังกล่าวแต่กองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชี LPG ก็ยังต้องช่วยพยุงราคาจำหน่ายไว้กว่า 100 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม เนื่องจากราคาตลาดโลกที่แท้จริงอยู่ที่ 463 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เงินดูแลราคาส่วนต่างดังกล่าวประมาณ 6,380 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามภาครัฐยังคงให้การช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ซื้อ LPG ราคาถูกต่อไป โดยเพิ่มวงเงินในบัตรฯ เพื่อใช้เป็นส่วนลดซื้อ LPG อีก 55 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ต่อ 3 เดือน จากเดิมมีวงเงินอยู่ 45 บาทต่อถังต่อ 3 เดือน ดังนั้นผู้ถือบัตรฯ จะได้รับการช่วยเหลือมากขึ้นรวมเป็น 100 บาทต่อถังต่อ 3 เดือน โดยคาดว่าต้องใช้งบดูแลในส่วนนี้ประมาณ 200 ล้านบาท ที่จะมาจากงบกลาง

ขณะที่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จะช่วยบริหารจัดการช่วยเหลือกลุ่มหาบเร่แผงลอยที่ลงทะเบียนไว้กับ ปตท. โดยได้รับส่วนลดไม่เกิน 100 บาทต่อรายต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย. 65) วงเงินช่วยเหลือประมาณ 1.65 ล้านบาท

มาตรการช่วยเหลือราคาก๊าซ NGV โดย ปตท.จะตรึงราคาไว้ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย. 65) วงเงิน 1,590 ล้านบาท ส่วน NGV กลุ่มแท็กซี่ในโครงการลมหายใจเดียวกัน จะยังช่วยในราคา 13.62 บาทต่อกิโลกรัม โดยมีผู้ได้รับการช่วยเหลือประมาณ 17, 460 ราย วงเงิน 171 ล้านบาท

รวมกรอบวงเงินที่รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือผ่านงบกลาง ปีงบประมาณรายจ่าย65 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (จัดเก็บจากผู้ใช้น้ำมัน)​ และจาก ปตท. รวมประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท

Advertisment