กกพ. เปิดรับฟังความเห็น “อัตราค่าบริการ TPA โครงการนำร่อง Direct PPA” ถึงวันที่ 10 พ.ย. 2568 นี้

54
- Advertisment-

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดรับฟังความเห็น “การกำหนดอัตราค่าบริการการใช้และเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้แก่บุคคลที่สาม (Third Party Access : TPA) สำหรับโครงการนำร่องซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct PPA)” ซึ่งกำหนดอัตราค่าบริการต่างๆ ไว้ 5 ด้าน เช่น ค่าบริการระบบส่งไฟฟ้าและระบบจำหน่ายไฟฟ้า (Wheeling Charge) ,ค่าบริการเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายตามนโยบายรัฐ เป็นต้น โดยเปิดให้แสดงความเห็นถึง 10 พ.ย. 2568

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ออกประกาศรับฟังความเห็น “การกำหนดอัตราค่าบริการการใช้และเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้แก่บุคคลที่สาม (Third Party Access : TPA) สำหรับโครงการนำร่องซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct PPA)” ผ่านทางเว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ถึงวันที่ 10 พ.ย. 2568 นี้

โดยสาระสำคัญระบุว่า อัตราค่าบริการการใช้และเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้แก่บุคคลที่สาม (TPA) ครอบคลุมค่าบริการต่างๆ ที่สอดคล้องกับมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วย 5 ส่วน ได้แก่ 1. ค่าบริการระบบส่งไฟฟ้าและระบบจำหน่ายไฟฟ้า (Wheeling Charge) 2.ค่าบริการเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า 3.ค่าใช้จ่ายตามนโยบายรัฐ 4.ค่าบริการหรือค่าปรับในการปรับสมดุลหรือบริหารปริมาณไฟฟ้า และ 5.ค่าบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าบริการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า, ค่าบริการจัดสรรศักยภาพในการให้บริการระบบโครงข่ายไฟฟ้า และค่าธรรมเนียมรายปี เป็นต้น

- Advertisment -

ทั้งนี้ 3 การไฟฟ้า ได้จัดทำข้อเสนอแนวทางการกำหนดอัตราค่าบริการ TPA สำหรับโครงการนำร่อง Direct PPA เสนอต่อ กกพ. โดย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้นำเสนอหลักการและข้อเสนออัตราค่าบริการ ในขณะที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้นำเสนอหลักการและแนวคิดในการกำหนดอัตราค่าบริการตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2567

โดย กฟผ. เสนอเป็นอัตรา ดังนี้ 1. ค่าบริการระบบส่งไฟฟ้าและระบบจำหน่ายไฟฟ้า (Wheeling Charge) เสนออัตรา 0.2506 บาทต่อหน่วย 2.ค่าบริการเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า เสนออัตรา 0.8870 บาทต่อหน่วย 3.ค่าใช้จ่ายเชิงนโยบายรัฐ เสนออัตรา 0.1727 บาทต่อหน่วย

4.ค่าบริการหรือค่าปรับในการปรับสมดุลหรือบริหารปริมาณไฟฟ้า (Imbalance Charge) เสนออัตราซึ่งแบ่งเป็น ปริมาณ Imbalance 0-2% เรียกเก็บ 1.05 เท่าของอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีก,  ปริมาณ Imbalance 2-5% เรียกเก็บ 1.25 เท่าของอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีก และปริมาณ Imbalance มากกว่า 5% เรียกเก็บ 1.50 เท่าของอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีก  5.ค่าบริการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า เสนออัตรา 10,000 บาท และค่าบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม กกพ. ได้นำอัตราค่าบริการตามข้อเสนอของ 3 การไฟฟ้ามาพิจารณาเปรียบเทียบกับของที่ปรึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ กกพ. ว่าจ้างให้ศึกษาไว้ก่อนหน้านี้มาประกอบแนวทางการกำหนดอัตราค่าบริการ PTA สำหรับโครงการ Direct PPA เสนอต่ออนุกรรมการกำกับการกำหนดอัตราค่าบริการ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและนำเสนอต่อ กกพ. ดังนี้

1.ค่า Wheeling Charge แบ่งเป็นระดับแรงดัน 69 กิโลโวลต์ขึ้นไป ช่วง peak อัตรา 1.1218 บาทต่อหน่วย หลัง Peak 74.14 บาทต่อหน่วย, ระดับแรงดันปานกลาง ช่วง peak อัตรา 1.9110 บาทต่อหน่วย หลัง Peak 132.93 บาทต่อหน่วย และระดับแรงดันต่ำ ช่วง peak อัตรา 2.5235 บาทต่อหน่วย หลัง Peak 210 บาทต่อหน่วย

2.ค่าบริการเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า อัตรา 0.4978 บาทต่อหน่วย 3.ค่าใช้จ่ายตามนโยบายรัฐ เป็นไปตามประมาณการณ์ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ปัจจุบันในเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2568 อยู่ที่ 0.1447 บาทต่อหน่วย

4.ค่าบริการหรือค่าปรับในการปรับสมดุลหรือบริหารปริมาณไฟฟ้า แบ่งเป็นกรณี Positive Imbalance จะไม่มีค่าบริการ ส่วนกรณี Negative Imbalance มีการกำหนดอัตราค่าบริการเป็น 2 ช่วง และ 5.ค่าบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น ค่าบริการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า 10,000 บาท ,ค่าบริการการจัดสรรศักยภาพในการให้บริการระบบโครงข่ายไฟฟ้า 125,000 บาท และอัตราค่าธรรมเนียมรายปี 120,000 บาท เป็นต้น

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถแสดงความเห็นและศึกษาข้อมูล โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ สำนักงาน กกพ. ได้จนถึง 10 พ.ย. 2568 นี้

Advertisment