กกพ.นัดถก Shipper รายใหม่สัปดาห์​หน้า​ แบ่งโควต้านำเข้า LNG ปี 64 กว่า 4.8 แสนตัน

- Advertisment-

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมเรียก Shipper ผู้นำเข้า LNG รายใหม่ 5 ราย หารือสัปดาห์หน้า เพื่อจัดสรรโควต้านำเข้า LNG สำหรับปี64 ปริมาณ 4.8 แสนตันตามมติ กบง. เชื่อขอนำเข้าไม่เต็มโควต้า เพราะแนวโน้มราคาLNGตลาดโลกที่สูงกว่าราคาPool Gas ที่ซื้อจาก ปตท.

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ( สำนักงาน กกพ.) และในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้า กกพ.จะเรียกผู้ประกอบการรายใหม่ ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้จัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) ทั้ง 5 ราย มาหารือถึงการจัดสรรโควต้าการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) 4.8 แสนตัน สำหรับปี 2564 ประกอบด้วย

  1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
  2. บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
  3. บริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด
  4. บริษัท บี.กริม แอลเอ็นจี จำกัด
  5. บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก

ส่วนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือว่าเป็น Shipper รายเก่า ซึ่งไม่อยู่ในเกณฑ์การจัดหาก๊าซ LNG 4.8 แสนตันในครั้งนี้

- Advertisment -

ส่วนอีก 2 บริษัท ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาใบอนุญาตเป็น Shipper จะยัง ไม่ได้เข้าหารือในครั้งนี้ แต่หากมีโควต้าเหลือ และ2 บริษัท ได้ใบอนุญาต Shipper ได้ทัน ก็สามารถมาหารือกับ กกพ.เพื่อใช้โควต้าที่เหลือได้ในภายหลัง ( 2 บริษัท ที่อยู่ระหว่างขอใบอนุญาตการเป็น Shipper แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติเนื่องจากจัดส่งข้อมูลให้ กกพ.ยังไม่ครบถ้วน ได้แก่ บริษัทในเครือของ ปตท.และบริษัทในเครือ SCG )

ทั้งนี้ กกพ.จะสอบถามทั้ง 5 ราย ถึงความพร้อมในการนำเข้า LNG ตามปริมาณที่ Shipperได้ยื่นเสนอขอนำเข้ากับ กกพ.ไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีความพร้อมนำเข้า LNG ได้เท่าไหร่ เพื่อนำมาใช้กับโรงไฟฟ้าใหม่หรือโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้ติดสัญญาการซื้อขายก๊าซธรรมชาติระยะยาวกับ ปตท.

อย่างไรก็ตามคาดว่า Shipper จะขอใช้โควต้าโดยรวมไม่เกิน 4.8 แสนตันดังกล่าว เนื่องจากมี 2 ปัจจัยที่เกี่ยวข้องคือ 1.ปัจจุบันยังไม่มีโรงไฟฟ้าใหม่เกิดขึ้นสำหรับใช้ LNG ของ Shipper โดยโรงไฟฟ้าที่จะนำเข้าLNGมาใช้จริงส่วนใหญ่จะเป็นโรงไฟฟ้าเก่าที่ไม่ติดสัญญาซื้อก๊าซฯกับ ปตท. หรือเป็นสัญญาซื้อก๊าซฯแบบ Non-firm ที่สามารถยกเลิกสัญญากับ ปตท.ได้ ดังนั้น Shipper แต่ละรายต้องสรุปปริมาณ LNG ที่สามารถนำเข้าได้จริง ให้ กกพ.ได้รับทราบ

2.ราคา LNG โลกช่วงปลายปี มีแนวโน้มสูงขึ้นตามฤดูกาล เพราะปกติปลายปีอากาศหนาวทั่วโลกจะใช้ก๊าซฯ เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคา LNG พุ่งสูง ซึ่งจะเป็นเหตุผลให้โรงไฟฟ้าเก่าไม่ต้องการเปลี่ยนมาใช้ LNG จากShipper เพราะเห็นว่าราคา Pool Gas จาก ปตท.ยังมีราคาถูกกว่า ทั้งนี้โรงไฟฟ้าเก่าอาจตัดสินใจหันมาซื้อLNG กับShipper ในปี 2565 มากว่าในปี 2564 นี้

จากปัจจัยดังกล่าวทำให้คาดว่า การนำเข้า LNG โควต้า 4.8 แสนตันจะไม่เต็มโควต้า หรือกรณีไม่มี Shipper รายใดขอใช้โควต้าเพื่อนำเข้าในปี 2564 เลย ทาง กกพ.จะพิจารณาคืนโควต้าก๊าซฯให้ ปตท. เนื่องจาก ปตท. เป็นผู้แบ่งโควต้ามาให้ Shipper รายใหม่ ตามการพิจารณาของกระทรวงพลังงาน แต่หากกรณีมีการขอโควต้าเกินจำนวน 4.8 แสนตัน ทาง กกพ.จะพิจารณาร่วมกับ Shipper ว่าโรงไฟฟ้าใดควรได้รับ LNG ก่อน หรือขอให้โรงไฟฟ้าเก่าชะลอไปใช้ LNG ในโควต้าของปี 2565 แทน เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy​ News Center-ENC)​ รายงานว่ามติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2564 เห็นชอบปริมาณการนำเข้า Liquefied Natural Gas (LNG) ปี 2564 – 2566 เพื่อรองรับแนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 ที่ไม่กระทบต่อ Take or Pay เท่ากับ 0.48 ล้านตันต่อปี 1.74 ล้านตันต่อปี และ 3.02 ล้านตันต่อปี ตามลำดับ โดยมอบหมายให้ กกพ. เป็นผู้ดำเนินการจัดสรรปริมาณการนำเข้า LNG ตามโครงสร้างของกิจการก๊าซธรรมชาติในระยะที่ 2 คือ Regulated Market ( กลุ่มที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กกพ. จัดหา LNG เพื่อนำมาใช้กับภาคไฟฟ้าที่ขายเข้าระบบ ) และ Partially Regulated Market ( กลุ่มที่จัดหา LNG เพื่อใช้กับโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้ขายไฟฟ้าเข้าระบบ ภาคอุตสาหกรรมและกิจการของตนเอง ) สำหรับ New Demand และกำหนดหลักเกณฑ์ในการนำเข้าของ Shipper รวมทั้งกำกับดูแลต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.64 ทาง
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัท บี.กริม แอลเอ็นจี จำกัด (บริษัทย่อยที่ บี.กริม เพาเวอร์ ถือหุ้นร้อยละ 100) ที่ได้รับใบอนุญาต ประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG Shipper) จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จำนวน 6.5 แสนตันต่อปี เพื่อจัดจำหน่ายให้กับโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าที่จะหมดอายุสัญญาลง 5 โครงการ ของกลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ใน ปี 2565 นั้น ได้รับความเห็นชอบจาก กกพ. เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ในการเพิ่มปริมาณ การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) อีกจำนวนไม่เกิน 5.5 แสนตันต่อปี และเห็นชอบให้เพิ่มรายชื่อลูกค้าเพื่อจัดจำหน่ายเพิ่มเติมให้กับโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการของกลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ อีกจำนวน 13 ราย ส่งผลให้ปริมาณการนำเข้า LNG ในแต่ละปีของกลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ เพิ่มขึ้นเป็น 1.2 ล้านตันต่อปี

Advertisment