IRPC หนุนดิจิทัลและนวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจสร้างมูลค่าเพิ่ม

- Advertisment-

ไออาร์พีซี เผย โครงการ IRPC 4.0 คืบหน้า ระบุ ปี 2561 นี้ สามารถนำระบบดิจิทัลและนวัตกรรมมาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทได้กว่าร้อยล้านบาท ขณะที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เกือบ 200 ล้านบาท ตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำดิจิทัลด้านปิโตรเคมีในปี 2563 และสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทได้กว่า 3,300 ล้านบาทต่อปีในอนาคต ขณะเดียวกันเชื่อว่าความต้องการใช้น้ำมันยังมีอยู่ เนื่องจากการเปลี่ยนไปใช้รถ EV จะยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ 

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการ IRPC 4.0 ภายใต้ยุทธศาสตร์ GDP (Power of Growth, Power of Digital และ Power of People) ว่า จากแผนดำเนินการโครงการ IRPC 4.0 ขณะนี้บริษัทฯ สามารถดำเนินการโครงการย่อยแล้วเสร็จจำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย

  1. การจัดทำ “EKONS” ระบบแสดงผลตัวชี้วัดสำคัญในการกำกับดูแลโรงงาน สร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทฯ ประมาณ 110 ล้านบาท ในปี 2561 นี้ และถ้าสำเร็จทั้งโครงการ จะสร้างมูลค่าเพิ่ม 1,200 ล้านบาทต่อปี
  2. การจัดทำระบบวิเคราะห์และบริหารจัดการข้อมูล (Spend Cube Analytics) เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ซึ่งจะสามารถลดค่าใช้จ่ายให้บริษัทฯ ได้ประมาณ 190 ล้านบาทต่อปี

โดยโครงการ IRPC 4.0 อยู่ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ GDP ในมิติ Power of Digital เป้าหมายคือ พลิกโฉมธุรกิจของ IRPC ให้เป็นผู้นำด้านดิจิทัลของกลุ่มบริษัทปิโตรเคมีภายในปี 2563 ด้วยการบูรณาการระบบดิจิทัลและนวัตกรรมทันสมัยต่างๆ เข้ามาร่วมใช้ในขั้นตอนธุรกิจ ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ไม่น้อยกว่า 3,300 ล้านบาทต่อปี ภายใต้งบประมาณโดยรวมของโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท

- Advertisment -

สำหรับการดำเนินการโครงการ IRPC 4.0 ได้แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรก บริษัทฯ ได้ร่วมกับที่ปรึกษาจัดทำแผนดำเนินการ ซึ่งแล้วเสร็จในช่วงเดือนเม.ย. 2561 ที่ผ่านมา ระยะที่สองเป็นการรวบรวมข้อมูล วางระบบ และดำเนินการตามแผนงานซึ่งมีทั้งสิ้น 29 แผนงาน เริ่มดำเนินการในปี 2561 จำนวน 19 แผนงาน และอีกจำนวน 10 แผนงานจะเริ่มดำเนินโครงการในปี 2562

นายสุกฤตย์  กล่าวว่า เพื่อให้การกำกับดูแลโครงการ IRPC 4.0 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ บริษัทฯ ได้จัดตั้งสำนักบริหารจัดการและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์องค์กร (Strategic Transformation and Result Delivery) ทำหน้าที่เป็น Project Management Office (PMO) และมีคณะกรรมการขับเคลื่อน (Steering Committee) ทำหน้าที่ตัดสินใจกำหนดทิศทางของโครงการ มีทีมงานจากสายงานต่างๆ ทำหน้าที่ผลักดันและขับเคลื่อนในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการจัดหลักสูตรอบรม เสริมสร้างศักยภาพด้านดิจิทัลแก่พนักงาน เพื่อช่วยยกระดับให้บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านดิจิทัลได้สำเร็จตามเป้าหมาย IRPC 4.0 และวิสัยทัศน์ที่จะเป็นบริษัทปิโตรเคมีชั้นนำของเอเชีย ภายในปี 2563

นอกจากนี้บริษัทฯจะจัดสรรงบประมาณ 3% จากกำไรสุทธิย้อนหลัง 3 ปี เพื่อเป็นงบประมาณในการตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดตั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีไออาร์พีซี (IRPCT) และการดูแลจัดการสังคมโดยรอบโรงกลั่น ทั้งชุมชน วัดและโรงเรียน เป็นต้น รวมทั้งกำลังจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม IRPC หรือ IRPC Innovation Center – IIC และยกระดับเป็นศูนย์วิจัยนวัตกรรมระดับโลก โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ย. 2562

นายสุกฤต กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลก คาดว่าไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 จะอยู่ระดับ 76-78 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่เชื่อว่าถ้าราคาน้ำมันถึงระดับ 90-100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จะส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน(เชลล์ออยล์) เริ่มกลับมาผลิตมากขึ้น จากปัจจุบันที่หยุดผลิตไปกว่า 1,000 หลุม และจะส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกลดต่ำลงได้ นอกจากนี้ เชื่อว่าความต้องการใช้น้ำมันจะยังมีต่อเนื่อง แม้จะมีกระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ก็ตาม เนื่องจากเห็นว่าความเป็นไปได้ที่ผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปซื้อรถ EV คงไม่เร็วมากนัก เนื่องจากราคารถยังแพง ทำให้ความต้องการใช้ยังมีอยู่สูง

Advertisment