ครม.เห็นชอบแนวทางให้กฟผ.นำน้ำมันปาล์มไปเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า

- Advertisment-

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทาง แก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน ตามมติของ คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ทั้งการให้กฟผ.นำน้ำมันปาล์มดิบไปเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าที่มีศักยภาพ การเพิ่มสัดส่วนใช้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ผสมกับดีเซลจากร้อยละ 6.5-7 เพิ่มเป็นร้อยละ 6.8-7 รวมทั้งการส่งเสริมการใช้ดีเซล B20 ในรถบรรทุกขนส่ง และการตั้งคณะอนุกรรมการมากำกับดูแลมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ (เฉพาะกิจ)

นายพุทธิพงษ์ ปุณกันต์  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ครั้งที่ 3/2561เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 มีมติ โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้

1. โครงการเร่งรัดส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ ปี 2561 ตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน  โดยที่ประชุม เห็นชอบให้กระทรวงพลังงาน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)นำน้ำมันปาล์มดิบไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าที่มีศักยภาพ จำนวน 160,000 ตัน เพื่อลดปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มภายในประเทศ และ  เห็นชอบในหลักการให้เพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการใช้เงินงบกลางสำหรับโครงการเร่งรัดส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ ปี 2561 ตามมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มให้กับโรงไฟฟ้า โดยปรับเปลี่ยนชื่อ จาก โครงการเร่งรัดส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ ปี 2561 ตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ เป็น มาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ

- Advertisment -

พร้อมเห็นชอบให้ปรับกรอบระยะเวลาและเงื่อนไขราคาของกิจกรรมการผลักดันการส่งออกตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ ตามที่คณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาดเสนอ สำหรับการบริหารและกำกับดูแลการผลักดันการส่งออกให้เป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการบริหารและกำกับดูแลมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ (เฉพาะกิจ) ที่ กนป. แต่งตั้งต่อไป  รวมทั้ง มอบหมายคณะกรรมการจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กจร.) พิจารณาความเหมาะสมของราคาขั้นต่ำในการรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกร เพื่อเผยแพร่เป็นข้อมูลด้านการตลาดให้แก่เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ต่อไป

2. มาตรการเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ (ด้านพลังงาน) เห็นชอบให้มีการเพิ่มสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซล (บี 7) จากอัตราส่วนผสมร้อยละ 6.5 – 7.0 เป็นร้อยละ 6.8 – 7.0 ซึ่งส่งผลให้มีการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นปีละ 80,000 ตัน พร้อมมอบหมายให้กระทรวงพลังงานหาแนวทางส่งเสริมและมาตรการจูงใจให้มีการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 ในรถบรรทุกและรถยนต์ขนาดเล็ก

3. มาตรการกำกับดูแลให้เป็นไปตาม ข้อ 1 และ ข้อ 2 เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารและกำกับดูแลมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ (เฉพาะกิจ) เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามมาตรการในข้อ 1 และข้อ 2 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตร 1 กรมการค้าภายใน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นอนุกรรมการ ตามร่างองค์ประกอบที่นำเสนอ กนป. รวม 13 คน โดยให้เพิ่มองค์ประกอบในคณะอนุกรรมการฯ จำนวน 4 คนตามความเห็นของประธาน กนป.และกรรมการ กนป. คือ ผู้แทน กอ.รมน. จำนวน 1 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กนป. จำนวน 3 คนรวม 17 คน

Advertisment

- Advertisment -.