พพ.คาด กฎหมายมาตรฐานออกแบบอาคารเพื่อประหยัดพลังงาน(BEC)มีผลบังคับใช้ต้นปี2562

- Advertisment-

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) คาดว่า กฎหมายมาตรฐานการออกแบบอาคารเพื่อการประหยัดพลังงาน(BEC) มีผลบังคับใช้ต้นปี 2562 ประเดิมอาคารใหม่และอาคารดัดแปลงขนาด 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป  หวังช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงานได้มากกว่า 47,000 ล้านบาท ภายในปี 2579 

นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เปิดเผยว่า คาดว่าต้นปี 2562 กระทรวงพลังงานจะประกาศใช้กฎหมายเกณฑ์มาตรฐานการออกแบบอาคารเพื่อการประหยัดพลังงาน(Building Energy Code: BEC) สำหรับอาคารใหม่และอาคารดัดแปลงเฉพาะเนื้อที่ขนาด 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งต้องออกแบบอาคารให้ได้มาตรฐาน BEC จึงได้รับการอนุมัติให้ก่อสร้างอาคารได้ โดยปัจจุบันกฎหมาย BEC ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแต่คาดว่าจะผ่านการพิจารณาเร็วๆนี้

ส่วนในปี 2563 จะบังคับให้อาคารสร้างใหม่และอาคารดัดแปลงขนาดเนื้อที่ 5,000 ตารางเมตร ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย BEC และในปี 2564 จะครอบคลุมอาคารขนาด 2,000 ตารางเมตรต่อไป โดยจะมีผลกับอาคารที่จะก่อสร้างใหม่หรือดัดแปลง 9 ประเภทอาคาร ได้แก่ 1) สำนักงาน 2) โรงแรม3) โรงพยาบาล 4) ศูนย์การค้า 5) โรงมหรสพ 6) สถานบริการ 7) อาคารชุมนุมคน 8) อาคารชุดและ9) สถานศึกษา โดยมาตรฐาน BEC เป็นส่วนหนึ่งของแผนอนุรักษ์พลังงาน(EEP) ฉบับปัจจุบัน ซึ่งคาดว่ามาตรฐาน BEC ดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงานได้มากกว่า 47,000 ล้านบาท ในปี 2579

- Advertisment -

นายประพนธ์ กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานการออกแบบอาคารเพื่อการประหยัดพลังงาน พพ.จึงได้จัดมอบฉลากรับรองอาคาร(BEC Awards) ในปี 2561นี้ มีอาคารที่ผ่านการตรวจประเมิน 114 อาคาร จาก 33หน่วยงาน  โดยมีอาคารที่ได้รับฉลากทั้งสิ้น 18 อาคาร แบ่งเป็นระดับอาคารดีเด่น ผู้ได้รับเพียงรายเดียวคือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) ส่วนระดับดีมาก ผู้ได้รับ7หน่วยงาน จาก15อาคาร และระดับดี  มีผู้ได้รับ2หน่วยงาน จาก2อาคาร

ทั้งนี้การจัดมอบฉลากรับรองอาคารBEC Awardsดังกล่าว พพ.ได้ดำเนินการจัดเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งจากการดำเนินการตรวจแบบ BEC ของ พพ.ตั้งแต่ปี 2552 -2561 ได้ตรวจประเมินอาคารแล้วกว่า 650 อาคาร มีอาคารที่ได้รับฉลากแบบอาคาร(มีการมอบตั้งแต่ปี2559 –2561) รวมทั้งสิ้น 114 อาคาร คิดเป็นการประหยัดพลังงานประมาณ 430 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นประมาณ 1,500 ล้านบาท

นายโกมล บัวเกตุ ผู้อำนวยการสานักกำกับและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า แนวทางการส่งเสริม BEC ที่ผ่านมา พพ.ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2552  โดยได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อเป็นหน่วยงานให้ คำปรึกษา แนะนำ ช่วยเหลือทางด้านวิชาการ เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ จัดฝึกอบรมและขึ้นทะเบียนผู้ตรวจ รับรองแบบอาคาร และอบรมให้ความรู้แก่เจ้าพนักงานท้องถิ่นผู้อนุญาตการก่อสร้างอาคารเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการบังคับใช้เกณฑ์BEC ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

Advertisment