กบง. ขยายเวลาหนุนดีเซลบี20 และตรึงราคา LPG กลุ่มรายได้น้อยต่ออีก 2 เดือน ถึงสิ้น ก.ย. นี้

- Advertisment-

ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติขยายเวลามาตรการอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลฯ บี20 ให้มีราคาต่ำกว่าดีเซลฯ ธรรมดา (บี7) ต่อไปอีก 2 เดือน หวังช่วยแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาดและสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันต่อเนื่อง นอกจากนั้น ยังเห็นชอบตรึงราคา LPG ภาคครัวเรือนสำหรับกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ต่อไปอีก 2 เดือนเช่นกัน โดยทั้งสองมาตรการจะขยายไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. นี้ ระบุสถานะกองทุนน้ำมันฯ จะติดลบราว 6,090 ล้านบาท ณ สิ้นเดือน ส.ค. ซึ่งยังอยู่ในกรอบเพดานการชดเชยราคาก๊าซ LPG  ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท จึงยังไม่จำเป็นต้องขยายกรอบเพดานการใช้กองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาเสถียรภาพราคาก๊าซ LPG

วันนี้ (31 กรกฎาคม 2562) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานฯ ได้พิจารณาและมีมติขยายระยะเวลาให้ระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลฯ บี20 ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลฯ ธรรมดา (บี7) จำนวน 5 บาทต่อลิตร ต่อไปอีก 2 เดือน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค. 62 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 62 โดยคงอัตราเงินชดเชยของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 ไว้ที่ 4.50 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน แก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาดและสร้างเสถียรภาพปาล์มน้ำมัน รวมถึงส่งเสริมการจำหน่ายน้ำมันดีเซลฯ บี20 อย่างต่อเนื่อง

กระทรวงพลังงาน ได้ดำเนินการส่งเสริมให้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาด สร้างเสถียรภาพปาล์มน้ำมัน และลดค่าครองชีพของประชาชนจากค่าบริการขนส่ง มาตั้งแต่ วันที่ 8 มิ.ย. 61 จนถึงปัจจุบัน และจากการที่ กบง. มีมติให้ส่วนลดพิเศษ ทำให้ส่วนต่างราคาขายปลีกดีเซล บี20 กับ บี7 เพิ่มขึ้นเป็น 5 บาทต่อลิตร ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2561 และมีการประกาศรุ่นรถยนต์ที่รองรับการใช้ดีเซล บี20 ทำให้ผู้ใช้รถยนต์มีความเชื่อมั่นและหันมาใช้น้ำมันดีเซล บี20 มากขึ้น จากเฉลี่ย 0.030 ล้านลิตรต่อวันในเดือน ก.ค. 61 เป็นเฉลี่ย 5.067 ล้านลิตรต่อวัน ในปัจจุบัน ส่วนไบโอดีเซล บี100 เพิ่มขึ้น จากเฉลี่ย 4.103 ล้านลิตรต่อวัน ในเดือน ก.ค. 61 เป็นเฉลี่ย 5.215 ล้านลิตรต่อวัน ในปัจจุบัน

- Advertisment -

ทั้งนี้ น้ำมันดีเซล บี 20 สามารถจำหน่ายที่สถานีบริการได้ทั่วไป โดย ณ วันที่ 21 ก.ค. 62 มีผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 จำนวน 13 ราย จำหน่ายน้ำมันดีเซลฯ บี 20 โดยแบ่งเป็น  Fleet 532 แห่ง และสถานีบริการจำนวน 1,181 แห่ง

อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ ราคา CPO เริ่มมีแนวโน้มลดลง จาก 21.87 บาทต่อกิโลกรัม  ในช่วงต้นเดือน ก.ค. 62 มาอยู่ที่ 16.75 บาทต่อกิโลกรัม ในวันที่ 26 ก.ค. 62 กบง. จึงมีมติขยายเวลาการให้ส่วนต่างราคาบี20 ออกไปอีก 2 เดือนดังกล่าว

ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือน (กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร) นั้น ที่ประชุม กบง. มีมติมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ขอความร่วมมือจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้ขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอย เพิ่มอีก 2 เดือน (ส.ค. – ก.ย. 2562) และขอขยายกรอบวงเงินสำหรับมาตรการนี้อีก 60 ล้านบาท โดยขอให้ ปตท. รับภาระในการตรึงราคาปัจจุบันเอาไว้ก่อน เพื่อให้กระทรวงพลังงานได้มีเวลาเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ชัดเจนขึ้น ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของกระทรวงการคลัง

โดยที่ผ่านมา การช่วยเหลือราคา LPG สำหรับกลุ่มหาบเร่แผงลอย ได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้ความ ช่วยเหลือ โดยตัดสิทธิผู้ลงทะเบียนที่ไม่มีการใช้สิทธิเป็นระยะเวลาย้อนหลังตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปและปรับลดปริมาณ LPG ที่ให้ส่วนลด จากสูงสุดไม่เกิน 150 กก.ต่อเดือน เป็นไม่เกิน 75 กก.ต่อเดือน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1  กรกฎาคม 2562

สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีภาระชดเชยราคา LPG อยู่นั้น ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2562 มีฐานะสุทธิ ฯ อยู่ที่ 36,742 ล้านบาท (บัญชีน้ำมัน 42,994 ล้านบาท และบัญชี ก๊าซ LPG ติดลบ 6,252 ล้านบาท) โดย คาดการณ์ ณ สิ้นเดือน ก.ค. 2562 ฐานะกองทุนของกลุ่มก๊าซ LPG จะติดลบ 6,324 ล้านบาท และสิ้นเดือน ส.ค. 2562 จะติดลบ 6,090 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังไม่เกินกรอบเพดานการชดเชยราคาก๊าซ LPG ตามมติ กบง. เดิมที่กำหนดในการรักษาเสถียรภาพราคาก๊าซ LPG ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท จึงไม่จำเป็นต้องขยายกรอบเพดานการใช้กองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาเสถียรภาพราคาก๊าซ LPG

Advertisment